มาต่อตอนที่สองค่ะ
ย่างเข้าสู่เดือนที่สองของการเรียน ทุกอย่างดูจะยิ่งเลวร้ายลงกว่าเดิม ฉันปรับตัวเข้ากับเพื่อนๆไม่ได้ และแล้ววันที่หมดความอดทนก็มาถึง ในคาบจริยธรรม อาจารย์ประกาศให้นักเรียนชั้น ม. ๑ ทุกคน ไปรวมตัวกันที่หอประชุม ซึ่งอยู่ไกลจากห้องเรียนพอสมควร ในระหว่างที่พวกเรากำลังเดินไปอยู่นั่นเอง เพื่อนคนหนึ่งบอกให้ฉันเลี้ยวซ้าย ฉันเลี้ยวตามคำบอกของเพื่อน เดินตรงไปได้ซักพัก ไม้เท้าก็ไปฟาดกับอะไรบางอย่าง ฉันเอามือจับดูก็รู้ว่าเป็นกำแพง เพื่อนๆที่ตามมาก็พากันหัวเราะอย่างสนุกสนาน ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อระงับความโกรธ พอเดินมาได้อีกสักพัก เพื่อนอีกคนก็เอ่ย
“ขวาๆๆ” ฉันหยุดยืนอย่างลังเล
“ขวาจริงเหรอพวกเธอไม่หลอกเราแน่นะ”
“จริงๆๆๆ เลี้ยวเลยๆ” หลายเสียงพูดขึ้นพร้อมกัน ฉันเลี้ยวตามคำบอกของเพื่อนอีกครั้ง และด้วยความไม่ระวังตัว หรือเพราะความซวยก็มิอาจทราบได้ จึงทำให้สะดุดกับอะไรบางอย่าง ล้มคว่ำหน้าลงในทันที ฉันใช้มือยันกับพื้นโดยสัญชาตญาณ เพื่อไม่ให้หน้าไปปะทะพื้น เสียงหัวเราะดังมาให้ได้ยินอีกครั้ง ฉันลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ หันหน้าไปทางเพื่อนๆ แล้วพูดขึ้นด้วยแรงอารมณ์
“พวกเธอมีความสุขมากใช่ไหมที่ได้แกล้งเรา” เสียงหัวเราะเงียบลงทันที ทุกคนนิ่งไปชั่วขณะ ครู่หนึ่ง มุกก็เอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมา
“โธ่ตะวัน เราก็แค่ล้อเธอเล่นหนะ ไม่เห็นต้องโกรธกันขนาดนี้เลย” ‘ตัวตลก’ คำๆนี้ผุดขึ้นในใจ
“ล้อเล่นเหรอ นี่คือการล้อเล่นของพวกเธอเหรอ พวกเธอสนุกมากเลยใช่ไม๊ที่เห็นเราเป็นตัวตลก เราตาบอดแล้วพวกเธออยากจะแกล้ง หรืออยากจะทำอะไรก็ได้งั้นสิ” ฉันพูดขึ้นทั้งน้ำตา ความรู้สึกในยามนี้มีทั้งความโกรธและความเสียใจปะปนคละเคล้ากันจนแยกไม่ออก ทุกคนเงียบ ฉันก็นิ่ง จนกระทั่ง
“อะไรกัน” อาจารย์ท่านหนึ่งส่งเสียงถามมาก่อน และเดินตรงเข้ามายังจุดที่พวกเรายืนอยู่ ทุกคนยังเงียบตามเคย อาจารย์ท่านนั้นเดินเข้ามาหาฉัน แล้วถามขึ้นด้วยความปราณี
“หนู หนูร้องไห้ทำไมคะ ใครทำอะไรหนู ไหนบอกครูมาซิลูก” ฉันเล่าให้อาจารย์ฟังทั้งน้ำตา อาจารย์สุคลเห็นใจเด็กหญิงเป็นอันมาก จิตวิญญาณแห่งความเป็นครูที่มีความเข้าใจอย่างแท้จริงทำให้เธอไม่เคยตัดสินใครที่ความพิการ เพราะเธอเชื่อเสมอว่า คนทุกคนล้วนมีคุณค่าในตัวเอง
“ครูจะหักคะแนนความประพฤติของพวกเธอคนละ 50 คะแนน” พูดจบ อาจารย์ก็พาฉันเดินไปจากตรงนั้นทันที
“หนูจะไปหอประชุมใช่ไม๊คะ เดี๋ยวครูพาไปส่งนะลูก”
“หนูไม่อยากไปหอประชุมแล้วค่ะ หนูอยากอยู่คนเดียว อาจารย์ให้หนูอยู่คนเดียวซักพักนะคะ” ฉันเอ่ยเสียงเศร้า
“ถ้างั้นครูจะพาหนูไปอยู่ที่ห้องพักครูนะคะ แล้วจะหาอะไรไปให้ทานด้วย หนูจะได้รู้สึกดีขึ้นไงคะ อ้อ! ลืมบอกไป ครูชื่อครูสุคลนะคะ” อาจารย์สุคลเอ่ยยิ้มๆ
“ขอบคุณมากค่ะคุณครูสุคล” ฉันยกมือไหว้อย่างนอบน้อม รู้สึกขอบคุณอาจารย์ท่านนี้จากใจจริง เมื่ออาจารย์สุคลพาฉันมานั่งที่ห้องพักครูแล้ว อาจารย์ก็ปล่อยให้ฉันได้อยู่ตามลำพังดังที่ต้องการ
“เดี๋ยวครูไปหาอะไรมาให้ทานนะคะ นั่งพักผ่อนให้สบาย ไม่ต้องคิดอะไรมาก”
“ค่ะ” ฉันรับคำเสียงแผ่วเบา อาจารย์สุคลเอามือลูบศีรษะฉันด้วยความเอ็นดู แล้วเดินจากไปเงียบๆ ฉันทอดถอนใจอย่างเหนื่อยล้า สิ่งที่เผชิญมาตลอดหลายเดือนจนถึงวันนี้ มันเหมือนจะแย่ลงเรื่อยๆและไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้นเลย ความอดทนของฉันมันหมดสิ้นแล้วในวันนี้เอง สิ่งเดียวที่ฉันคิดได้ในยามนี้คือ อยากจะหนีไปให้ไกลที่สุด ฉันไม่อยากเผชิญกับสิ่งต่างๆเหล่านี้อีกแล้ว
สุวีรยา เราควรจะทำยังไงต่อไปดี
...
มีอะไรแนะนำ ติชม และวิจารณ์กันได้นะคะ><
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน |
21 พฤศจิกายน 2024, 10:45:PM | |||
|
ผู้เขียน | หัวข้อ: นิยาย ดวงตาของฉันดวงตะวันของเธอ (อ่าน 70413 ครั้ง) |
| ||||||||||
Email: