Re: ๐เล่าเรื่อง "ยักษิณี"๐...ตอนที่ ๙ (อวสาน)
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 07:05:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ๐เล่าเรื่อง "ยักษิณี"๐  (อ่าน 8430 ครั้ง)
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2014, 09:49:PM »

ต่อ...ตอนที่ ๙ (อวสาน)

ต้องนำยักษ์ พักออก นอกตัวบ้าน
จึงสำราญ การกิจ มิผิดเหนียม
เลี้ยงกับข้าว คาวหวาน สราญเรียม
สุขีเปี่ยม ประจักษ์ ทั้งยักษ์คน

ยักขินี เห็นคุณ บุญสหาย
จึงได้หมาย บอกเหตุ เลศฟ้าฝน
ปีใดแล้ง แห้งผาก จากเบื้องบน
ก็บอกกล ทำนาลุ่ม มิกลุ้มใจ

ถึงคราวปี ฝนมาก จากเบื้องสูง
บอกเหตุจูง ทำนาดอน มิร้อนไหม้
จนเพื่อนบ้าน เห็นแตก แปลกหทัย
ต่างถามไถ่ ในเลศ เหตุนาดี

นางจึงบอก เรื่องยักษ์ ประจักษ์แน่
คนเลยแห่ บูชา หวังราศี
พร้อมอาหาร ฟูมฟัก ยักษิณี
ลาภัคคี เหลือล้น ผลอนันต์

เกิดธรรมเนียม ชาวนา บูชาผี
จากเรื่องนี้ มีมา แต่ครานั้น
ผีตาแฮก,ผีนา,สารพัน
ปัจจุบัน ยังมี ที่นิยม

ยักขินี ก็ช่วย ด้วยน้ำจิต
ป้องสิ่งผิด ข้าวกล้า ผลาสม
ทั้งน้ำท่า คราพร้อม มิจ่อมจม
ผลอุดม พืชพรรณ ธัญญาดี...

(เกร็ดบางส่วนจากเรื่องนี้-กาลียักษิณีตนนี้ ยังเป็นต้นตำหรับพาชาวบ้านถวายทานสลากภัต-
แด่พระสงฆ์มาตั้งแต่สมัยนั้น ปัจจุบันยังมีบางท้องที่นิยมทำอยู่
-คำว่า "เวร" กับ "กรรม" ความหมายใกล้เคียง นิยมใช้คู่กันแต่ไม่เหมือนกัน เช่น เวรระงับด้วยการไม่จองเวร แต่ผลของกรรม หาระงับไม่ ฯลฯ
-นับจากตอนที่ ยักษิณี "บรรลุธรรม" เป็นพระโสดาบัน อัตภาพย่อมละจากเพศหยาบ ยักขินี ไปเป็นเทวดาหรือนางฟ้าจำพวกหนึ่งในทันที เลื่อนภพภูมิ
แต่ที่ผู้ประพันธ์ ยังคงกล่าวคงความเป็นยักษ์ไว้ คงเพื่อรักษาเอกลักษณ์ของเรื่องไว้นั่นเอง......มุนีน้อย) ยิ้มให้จ้ะ

ขอได้รับความขอบคุณจาก "มุนีน้อย" โปรดติดตามเรื่องต่อไป (ถ้าท่านยังไม่เบื่อ ยิ้มแฉ่งฟันหลอ)
เรื่องนี้ จบช้า ต้องขออภัย เพราะช่วงนี้ยุ่งเลยไม่มีเวลาเข้าเว็บบ่อย

ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งที่ติดตามจนจบเรื่อง หากติชมเพื่อเป็นกำลังใจก็จักขอบคุณยิ่ง  ยิ้มแฉ่งฟันหลอ

 สาวน้อยเซย์ ฮาโหล เคารพรัก

"มุนีน้อย"

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, กรกช, รัตนาวดี, panthong.kh, พี.พูนสุข

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s