๑.ช่วงชีวิตหนึ่งนั้นแสนสั้นนัก
แน่ตระหนักลดละโมบทิ้งโลภหลง
อธิษฐาน ทาน ท่อง ทำ จนดำรง
เคียงมั่นคงอยู่เหย้า...ข้าวคู่เคียว
๒.กงเกวียนกำเกวียนหมุนเวียนล้อ
เติมต่อวีถีถี่ลดเลี้ยว
ทำดีได้ดีไม่ดายเดียว
กลัวไย..ใครเกี่ยว..เราได้ยิน
๓.ปฐม มัชฌิม ปัจฉิม
ปากลิ้ม รู้รส หมดลิ้น
จวบกาล ร่างกาย จมดิน
หมดสิ้น ลำเค็ญ เย็นร้อน
๔.อัสดงธงธรรมชาติ
พิศพิลาศเช่นคับค้อน
ปรับปรุงบำรุงป้อน
พิเคราะห์เศร้ามลายลง
กัลยาณมิตรมาก
มีหลายหลากดั่งประสงค์
ตัดญาติยากขาดลง
ปีกขมิ้นห้ามดิ้นกาง
๕.นกน้อยค่อยหวนหันห่าง หันจับกลับทาง
กลับถิ่นที่เลยมาไกล
เลยลับไปแล้วแดนใด แดนดงพงใจ
พงไพรได้พักพอนอน
พอตื่นฟื้นจำทอดถอน ทอดทุกข์เร้ารอน
เร้ารุกปลุกตื่นคืนมา
คืนถิ่นหอมกลิ่นพวงผกา พวงครามตามมา
ตามหน้านกหนึ่งตัวนั้น
เนิน จำราย
แน่ตระหนักลดละโมบทิ้งโลภหลง
อธิษฐาน ทาน ท่อง ทำ จนดำรง
เคียงมั่นคงอยู่เหย้า...ข้าวคู่เคียว
๒.กงเกวียนกำเกวียนหมุนเวียนล้อ
เติมต่อวีถีถี่ลดเลี้ยว
ทำดีได้ดีไม่ดายเดียว
กลัวไย..ใครเกี่ยว..เราได้ยิน
๓.ปฐม มัชฌิม ปัจฉิม
ปากลิ้ม รู้รส หมดลิ้น
จวบกาล ร่างกาย จมดิน
หมดสิ้น ลำเค็ญ เย็นร้อน
๔.อัสดงธงธรรมชาติ
พิศพิลาศเช่นคับค้อน
ปรับปรุงบำรุงป้อน
พิเคราะห์เศร้ามลายลง
กัลยาณมิตรมาก
มีหลายหลากดั่งประสงค์
ตัดญาติยากขาดลง
ปีกขมิ้นห้ามดิ้นกาง
๕.นกน้อยค่อยหวนหันห่าง หันจับกลับทาง
กลับถิ่นที่เลยมาไกล
เลยลับไปแล้วแดนใด แดนดงพงใจ
พงไพรได้พักพอนอน
พอตื่นฟื้นจำทอดถอน ทอดทุกข์เร้ารอน
เร้ารุกปลุกตื่นคืนมา
คืนถิ่นหอมกลิ่นพวงผกา พวงครามตามมา
ตามหน้านกหนึ่งตัวนั้น
เนิน จำราย