จวนสิบสี่ กุมภาพันธ์ วันแห่งรัก
เจ็บเจียนจะ กระอัก จักเฉลย
ร้าวรานรุก รุมเร้า เฝ้าชิดเชย
ทุกข์กอดเกย กัดกิน ไร้ชิ้นดี..
..เห็นใครเขา เคล้าคลอ พะนอคู่
ชิดชื่นชู เชยชม สมสุขศรี
แต่ตัวเรา ร่ำร้อง นองโศกี
เพราะไร้รัก ภักดี สตรีควง..
..จวบสิบสี่ กุมภาพันธ์ วันแห่งรัก
ความโศกศัลย์ สลัก เร้าหนักหน่วง
แสนปวดเจ็บ เหน็บหนาว ร้าวแดดวง
เกลียดเต็มทรวง ทุกครา..วาเลนไทน์
สิบสี่ กุมภา วาเลนไทน์
ขลุ่ยไม้ไผ่ ผิวผ่าน สะท้านไหว
เสียงโหยหวน ครวญคร่ำ พร่ำพิไร
น้ำตาไหล อาบหน้า บ่าล้นนอง
เสียงขลุ่ยครวญ หวนไห้ ใจโหยหา
สาวบ้านนา ลาไกล ใจหม่นหมอง
หนุ่มบ้านนา คิดนัก รักสำรอง
นั่งเหม่อมอง ดวงดาว ร้าวทรวงใน
สิบสี่ กุมภา มาบรรจบ
ไม่เคยพบ หน้าน้อง ช้ำหมองไหม้
เสียงขลุ่ยผิว แผ่วผ่าน สะท้านใจ
อีกเมื่อไร จะกลับนา แม่หน้ามน
ชลนา ทิชากร
ขลุ่ยไม้ไผ่ ผิวผ่าน สะท้านไหว
เสียงโหยหวน ครวญคร่ำ พร่ำพิไร
น้ำตาไหล อาบหน้า บ่าล้นนอง
เสียงขลุ่ยครวญ หวนไห้ ใจโหยหา
สาวบ้านนา ลาไกล ใจหม่นหมอง
หนุ่มบ้านนา คิดนัก รักสำรอง
นั่งเหม่อมอง ดวงดาว ร้าวทรวงใน
สิบสี่ กุมภา มาบรรจบ
ไม่เคยพบ หน้าน้อง ช้ำหมองไหม้
เสียงขลุ่ยผิว แผ่วผ่าน สะท้านใจ
อีกเมื่อไร จะกลับนา แม่หน้ามน
ชลนา ทิชากร