ตอนใกล้รุ่งเสียงดังนอกขนำ
มันมืดค่ำซู่ซ่าน่าสยอง
ลุงคงรู้ตลอดกอดประคอง
ผมยังจ้องตกใจอยู่ในที
ท่านบอกว่าลมพัดจัดไปหน่อย
เสียงหนักค่อยปะทะสังกะสี
สงสัยจะพาฝนมาด้วยซี
นอนอยู่นี่อย่าขลาดหรือหวาดกลัว
เสียงเปาะแปะบนหลังคาเริ่มหนาแน่น
ผมเกาะแขนลุงไว้คิดไปมั่ว
น้ำจะท่วมไหมนะสั่นระรัว
ต้องลอยตัวข่าวทีวีมีก่อนนั้น
เพียงครู่หนึ่งเงียบไปฝนหายแล้ว
เสียงเจื้อยแจ้วฝั่งคลองนกร้องลั่น
เดินตามลุงออกไปไล่ให้ทัน
ท่านส่งน้ำหนึ่งขันล้างหน้าตา
เหลือบไปเห็นด้านทิศตะวันออก
ไม่หลอนหลอกแสงทองสว่างจ้า
ลุงเดินดูที่ถังใช้ขังปลา
ด้วยกลัวว่าน้ำฝนจะล้นไป
แวะดูต้นบวบงอกสองวันผ่าน
เหลือแต่ก้านนอกนั้นมันหายไหน
ลุงบอกว่าแมลงมากินใบ
น่าเจ็บใจฝนมาหาไม่เจอ
จึงถามลุงอะไรที่หนีหาย
บ่นเสียดายงุมงำมาทำเก้อ
ท่านบอกว่าสองตัวนั้นนะเออ
น้ำฝนเอ่อรูมิดปิดกลมกลืน
ผมเห็นรุ้งกินน้ำโค้งงามสี
เอามือชี้ตกใจให้เป็นอื่น
รีบอมนิ้วทันนะขณะยืน
และยังฝืนบอกลุงรุ้งกินน้ำ
ลุงกล่าวว่าแสงสะท้อนดวงอาทิตย์
หักเหบิดมุมแสงฝั่งตรงข้าม
จากละอองฝนตกเมื่อชั่วยาม
ท่านยังถามอมนิ้วทำไมกัน
บอกลุงไปหากใครได้ชี้รุ้ง
แสงจะพุ่งตัดนิ้วเราขาดนั่น
ต้องแก้เคล็ดอมไว้ให้ได้ทัน
ก่อนที่มันจะเห็นและเป็นไป
ลุงจึงชี้ดูต่อหัวเราะร่า
อธิบายมารับรู้ดูเสียใหม่
มีเจ็ดสีนับซีนะจะเข้าใจ
สองวงใหญ่ซ้อนกันเห็นชัดตา
ท่านชวนผมไปนั่งขอนไม้เก่า
แล้วจะเล่าให้ฟังมิกังขา
ให้ผมชี้นับสีลดหลั่นมา
ผมกลัวกลัวไม่กล้ายังระแวง.
นพ
15ก.พ.57