สลักเหงา กลางดึก คงสงัด
แท้แน่ชัด ลมพัดหวิว พาใจหมอง
ยังไร้คู่ ขาดคนรัก หาหมายปอง
ประคับคอง ดวงจิต พ้นราตรี
ใจครวญคร่ำ ระส่ำ ถามหารัก
ขอประจักษ์ ควรคู่ เป็นสุขขี
คงพอแล้ว ความเหงา ขอจรลี
แม้นนานปี ฉันคนนี้ จะเฝ้าคอย
หากทักถาม ท้วงทิง ถึงใครนั้น
เชิญรำพัน เพ้อพร่ำ อย่าได้ถอย
หวังว่าใคร คนนั้น ยังคงคอย
เศร้าใจหงอย กายเหงา หมองในตรม
แท้แน่ชัด ลมพัดหวิว พาใจหมอง
ยังไร้คู่ ขาดคนรัก หาหมายปอง
ประคับคอง ดวงจิต พ้นราตรี
ใจครวญคร่ำ ระส่ำ ถามหารัก
ขอประจักษ์ ควรคู่ เป็นสุขขี
คงพอแล้ว ความเหงา ขอจรลี
แม้นนานปี ฉันคนนี้ จะเฝ้าคอย
หากทักถาม ท้วงทิง ถึงใครนั้น
เชิญรำพัน เพ้อพร่ำ อย่าได้ถอย
หวังว่าใคร คนนั้น ยังคงคอย
เศร้าใจหงอย กายเหงา หมองในตรม
สลักเหงา เบาบาง เข้าข้างครอบ
สลักกรอบ กางกั้น วันสุขสม
สลักเรียง เคียงอยู่ คู่ภิรมย์
สลักปม ปล่อยปลาย ให้คลายคลอน
ใจระส่ำ สาดซัด จัดให้แจ่ม
แม้เดือนแรม เริงร่า อุราผ่อน
เจิดจรัส รัศมี รี่มาออน
เป็นบทกลอน ตอนหิว ลิ่วลอยลม
เชิญหยุดรัก พักสักนิด ค่อยคิดเขียน
หิวจนเวียน ศรีษะ อะระขม
บ่ายมากแล้ว ทานข้าว สาวตากลม
ต่อคารม ไม่ไหว ไส้มันร้อง
พันทอง
๙/๒/๕๗
ขอพักยกทานข้าวก่อนจ้า