ต่อ...ตอนที่ ๔ (อวสาน)
ทรงเล็งเห็น บุญนาง เคยสร้างสม
บุญเพาะบ่ม แสนกัปป์ เกินนับค่า
ครั้งปทุมุตตระศาสดา
ปรารถนาตำแหน่งแห่งเถรี
ผู้เป็นเลิศทางวินัยฤทัยตั้ง
เป็นพลัง สร้างเหตุ วิเศษศรี
อธิการ สานต่อ ก่อความดี
ตราบวันนี้ มีทาง กระจ่างธรรม
คงถึงวัน สิ้นบาป ที่ทาบติด
เปลี่ยนชีวิต นางใหม่ ให้หายช้ำ
พอมาใกล้ พุทธองค์ ทรงเอ่ยคำ
ดังฝนพรำ ฉ่ำรด ช่วยปลดปลง
"ภคินิ ดูก่อนบังอรหญิง
ขอเธอนิ่ง สติคืน ฝืนความหลง"
ด้วยเดชะ สูงสุด พุทธองค์
สติตรง กลับคืน นางยืนอาย
จึงนั่งลง ตรงนั้น พลันสะอื้น
มีคนยื่นผ้าให้ ด้วยใจหมาย
นางคลุมผ้า พอชิด ปกปิดกาย
ได้ถวาย บังคม บรมครู
ขอพระพุทธที่พึ่ง รำพึงว่า
ลูกโศกา เกินทน กมลสู
ขอพึ่งพิง พระธรรม สยัมภู
เปลื้องหดหู่ เถิดหนอ ทรมาน
พระสุคต ปลอบขวัญ จำนรรจ์ว่า
อันน้ำตา รินไหล ในสงสาร
มากกว่าน้ำ ในสมุทร สุดคาดการณ์
สัตว์วิ่งพล่าน เกิดตาย หลายกัปป์กัลป์
เธอพบผู้ชี้ทางสว่างแล้ว
จงตามแนว คำสอน สังวรมั่น
อย่าประมาท มัวเมา เฝ้าจาบัล
ความตายนั้น ธรรมดา เรื่องสาธารณ์
ปิยะชนทั้งหลาย ที่หมายรัก
ถึงคราวจัก ต้องตาย วายสังขาร
มิอาจเป็น ที่พึ่ง เมื่อถึงกาล
มัจจุมาร ย่อมพราก ให้จากกัน
แต่เมธี มีศีล ไว้ปีนป่าย
จุดมุ่งหมาย นิพพาน สำราญนั่น
ย่อมหมดจด วิเศษ เขตอนันต์
ยามดับขันธ์ สู่ทิพย์ พระนิพพาน
หลังได้ฟัง อนมัต ที่ตรัสเล่า
นางบรรเทา เบาหลง ในสงสาร
คลายความหมองครองจินต์กินดวงมาน
บรรลุผ่าน โสดาบัน ในทันใด
ขอบวชเป็น ภิกษุณี มีเป้าหมาย
มอบใจกาย พรหมจรรย์ อันผ่องใส
เหลือประวัติ ขื่นขม ระทมใจ
ผู้คนได้ ศึกษา ด้วยอาวรณ์
"มุนีน้อย"
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน เชิญร่วมติชมได้ตามสบาย (แค่ท่านอ่านจบเราก็พอใจยิ่งแล้ว ) แต่หากจะร่วมแจมหรือ
แสดงความเห็นก็จักดียิ่ง เพราะปฏาจารา เธอน่าสงสารจริงๆ ผู้แต่ง แต่งไปด้วย สงสารเธอไปด้วย
แต่งเอง ซึ้งเอง55 (หวังว่า คงมิใช่โรคจิต )
ทรงเล็งเห็น บุญนาง เคยสร้างสม
บุญเพาะบ่ม แสนกัปป์ เกินนับค่า
ครั้งปทุมุตตระศาสดา
ปรารถนาตำแหน่งแห่งเถรี
ผู้เป็นเลิศทางวินัยฤทัยตั้ง
เป็นพลัง สร้างเหตุ วิเศษศรี
อธิการ สานต่อ ก่อความดี
ตราบวันนี้ มีทาง กระจ่างธรรม
คงถึงวัน สิ้นบาป ที่ทาบติด
เปลี่ยนชีวิต นางใหม่ ให้หายช้ำ
พอมาใกล้ พุทธองค์ ทรงเอ่ยคำ
ดังฝนพรำ ฉ่ำรด ช่วยปลดปลง
"ภคินิ ดูก่อนบังอรหญิง
ขอเธอนิ่ง สติคืน ฝืนความหลง"
ด้วยเดชะ สูงสุด พุทธองค์
สติตรง กลับคืน นางยืนอาย
จึงนั่งลง ตรงนั้น พลันสะอื้น
มีคนยื่นผ้าให้ ด้วยใจหมาย
นางคลุมผ้า พอชิด ปกปิดกาย
ได้ถวาย บังคม บรมครู
ขอพระพุทธที่พึ่ง รำพึงว่า
ลูกโศกา เกินทน กมลสู
ขอพึ่งพิง พระธรรม สยัมภู
เปลื้องหดหู่ เถิดหนอ ทรมาน
พระสุคต ปลอบขวัญ จำนรรจ์ว่า
อันน้ำตา รินไหล ในสงสาร
มากกว่าน้ำ ในสมุทร สุดคาดการณ์
สัตว์วิ่งพล่าน เกิดตาย หลายกัปป์กัลป์
เธอพบผู้ชี้ทางสว่างแล้ว
จงตามแนว คำสอน สังวรมั่น
อย่าประมาท มัวเมา เฝ้าจาบัล
ความตายนั้น ธรรมดา เรื่องสาธารณ์
ปิยะชนทั้งหลาย ที่หมายรัก
ถึงคราวจัก ต้องตาย วายสังขาร
มิอาจเป็น ที่พึ่ง เมื่อถึงกาล
มัจจุมาร ย่อมพราก ให้จากกัน
แต่เมธี มีศีล ไว้ปีนป่าย
จุดมุ่งหมาย นิพพาน สำราญนั่น
ย่อมหมดจด วิเศษ เขตอนันต์
ยามดับขันธ์ สู่ทิพย์ พระนิพพาน
หลังได้ฟัง อนมัต ที่ตรัสเล่า
นางบรรเทา เบาหลง ในสงสาร
คลายความหมองครองจินต์กินดวงมาน
บรรลุผ่าน โสดาบัน ในทันใด
ขอบวชเป็น ภิกษุณี มีเป้าหมาย
มอบใจกาย พรหมจรรย์ อันผ่องใส
เหลือประวัติ ขื่นขม ระทมใจ
ผู้คนได้ ศึกษา ด้วยอาวรณ์
"มุนีน้อย"
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน เชิญร่วมติชมได้ตามสบาย (แค่ท่านอ่านจบเราก็พอใจยิ่งแล้ว ) แต่หากจะร่วมแจมหรือ
แสดงความเห็นก็จักดียิ่ง เพราะปฏาจารา เธอน่าสงสารจริงๆ ผู้แต่ง แต่งไปด้วย สงสารเธอไปด้วย
แต่งเอง ซึ้งเอง55 (หวังว่า คงมิใช่โรคจิต )