Re: ++ภิกษุณีสาวแก้ผ้า ปฏาจาราผู้น่าสงสาร++
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 06:25:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ++ภิกษุณีสาวแก้ผ้า ปฏาจาราผู้น่าสงสาร++  (อ่าน 7801 ครั้ง)
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2014, 08:18:PM »

ต่อ...ตอนที่ ๓

เธอเห็นเหยี่ยว เฉี่ยวมา หวังคร่าบุตร
ตะโกนสุดเสียงเค้น ใจเต้นถี่
เหยี่ยวไม่ฟัง เสียงไล่ ใจอัปรีย์
โฉบบุตรหนี หายลับ ไปกับตา

ลูกอีกคน ฟังเสียง สำเนียงแน่
คิดว่าแม่ เรียกให้ เจ้าไปหา
โดดลงน้ำ ทันที มิรอช้า
ถูกพัดพา ลับหาย ตายอีกคน

สิ้นทุกสิ่ง ทุกอย่าง ทางชีวิต
ลูกตายติด ตามกัน พลันสับสน
สามีตาย ตกอับ สัปดน
สุดจะทน หม่นหมอง ร้องคร่ำครวญ

ตัวคนเดียว ระหก อกสะท้าน
กลับมาบ้าน สาวัตถี ที่เคยหวน
หวังรับโทษ โขดขม ระทมตรวน
เพื่อทบทวน ชีวิต ที่ผิดไป

ระหว่างทาง พบชาย จึงทายทัก
ท่านรู้จัก เศรษฐี บ้านนี้ไหม
เขาขอร้อง อย่าถาม เลยทรามวัย
ขืนบอกให้ ไม่เหมาะ ขอแม่นาง

ทั้งเศรษฐีลูกชาย ตายเสียแล้ว
พร้อมเมียแก้ว สามศพ คนพบร่าง
ฝนตกหนัก เรือนทับ เหมือนจับวาง
กองฟอนสร้าง เผานั่น ควันยังมี

พอรู้ข่าวเท่านั้น เธอพลันทรุด
ผ้าถุงหลุด ไม่รู้ ดูบัดสี
สติขาด เป็นลม สมประดี
เป็นสตรี ผีบ้า เดินตาลอย


ไม่นุ่งผ้า เดินบ่น ระคนเพ้อ
ว่าลูกเธอ ตายลับ มิกลับถอย
ทั้งสามี พี่ชาย ตายเรียบร้อย
พ่อแม่กลอย ก็ลับ ดับชีวิน

ผู้คนเห็น ต่างด่า ว่าหญิงบ้า
ค้อนขว้างปา ไล่ส่ง ลงติฉิน
ด้วยเดชะ บุญผอง ของยุพิน
ให้เธอผิน บ่ายหน้า สู่อาราม

เที่ยวเดินดุ่ม ข้างวัด สะบัดหน้า
คนกันท่าเธอไว้ มิให้ข้าม
สู่เขตสงฆ์ดงธรรมจำต้องปราม
กลัวไม่งาม ห้ามสาว อย่าก้าวลง

พระสุคต จอมธรรม กำลังเทศน์
ธรรมวิเศษ โปรดสัตว์ ขจัดหลง
ได้เห็นเหตุ แต่ไกล พระทัยตรง
พระประสงค์ โปรดเจ้า ให้เข้ามา...

 ซึ้งจัง

"มุนีน้อย"

(จบตอน...โปรดรอตอน ๔  ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม  ตบมือให้)

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

♥ กานต์ฑิตา ♥, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, ไพร พนาวัลย์, พี.พูนสุข, รัตนาวดี, D, ดอกกระเจียว, สมนึก นพ

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 กุมภาพันธ์ 2014, 08:48:PM โดย muneenoi » บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s