ลุงนั่งจับสายเบ็ดติดเต่าน้อย
ให้ผมคอยกดไว้มือไม้สั่น
ตาเบ็ดเกี่ยวทะลุแก้มซ้ายมัน
สี่ขาดันจะหนีมีความกลัว
ลุงนำคีมจับเบ็ดด้านแหลมแน่น
เกร็งกล้ามแขนกลัวมันจะหดหัว
หยิบมีดที่วางอยู่ใกล้ตัว
ท่านยังมัวตัดสายหมายขาดไป
แล้วดึงออกตามโค้งของวงเบ็ด
จนแล้วเสร็จลุงบอกปล่อยออกได้
มันหนีจากมือผมอย่างเร็วไว
ปรับตัวใหม่มุ่งหน้าหาลำธาร
ลุงบอกว่าตัวนี้มิใช่เต่า
แต่ก่อนเก่าคนล่าเป็นอาหาร
เช่นเดียวเต่าอายุยืนยาวนาน
ต่างเรียกขานตะพาบน้ำตามกันมา
จึงถามลุงทำไมไม่ย้อนกลับ
ใช้คีมจับโคนเบ็ดนั่นละหนา
จะถอดง่ายคงไม่เสียเวลา
เบ็ดตกปลาตัดสายเสียดายจัง
ลุงให้ดูเบ็ดใกล้ปลายแหลมนั้น
มีเงี่ยงคั่นอยู่หน่อยกันถอยหลัง
หากถอดย้อนกลับนี้มิระวัง
ปากจะพังบอบช้ำอันตราย
เบ็ดที่ตัดผูกใหม่ใช้ได้อยู่
ชี้ให้ดูนิดเดียวไม่เสียหาย
ลุงจับเบ็ดวนเวียนเปลี่ยนขวาซ้าย
มือจับสายผูกได้ใช้เหมือนเดิม
ท่านสั่งผมสุมไฟให้สว่าง
ฟืนหนาต่างแยงใส่ไฟลุกเพิ่ม
นึกขึ้นได้น้ำอะไรที่ไหลเยิ้ม
และควันเสริมมานั้นคืออันใด
จึงถามลุงตามเห็นที่เป็นอยู่
ด้วยอยากรู้น้ำมีจากที่ไหน
ออกมาพร้อมกันนั้นกับควันไฟ
มีกลิ่นไหม้เข้มฉุนและกรุ่นร้อน
ลุงมองผมและยิ้มอยู่ในหน้า
ท่านบอกว่ายางไม้มีหลายท่อน
และยังรองเก็บไว้ใช้บางตอน
ผสมน้ำฉีดกันหนอนกันแมลง
สัญชาติญาณของสัตว์จำกัดอยู่
มันไม่รู้ว่าลุงมากลั่นแกล้ง
นึกว่าไฟไหม้ป่ากลิ่นมาแรง
สัตว์ปีกแข็งปีกอ่อนไม่ย้อนมา.
นพ
6ก.พ.57