++ปาฏิหาริย์ สังกิจจสามเณรถูกตัดคอ++
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 08:46:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ++ปาฏิหาริย์ สังกิจจสามเณรถูกตัดคอ++  (อ่าน 3109 ครั้ง)
muneenoi
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 628
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 772


~มี-ในสิ่งที่ไม่มี ไม่มี-ในสิ่งที่มี~


« เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2014, 11:21:PM »



สังกิจจะ เป็นหลานท่านเศรษฐี
กุฏุมพีร่ำรวยด้วยทรัพย์สิน
สาวัตถี เมืองใหญ่ในธานินทร์
เป็นท้องถิ่นสาธุชนคนทำดี

ย้อนอดีตคืนหลังครั้งทารก
แม่ตายตกท้องกลมระทมศรี
เมื่อมารดาลาลับดับชีวี
ด้วยบุญมีจึงรอดมาปลอดภัย

ท่านถูกเผาพร้อมแม่ที่แดดิ้น
คนแปลกจินต์เนื้อท้องมิหมองไหม้
พิศวงตรงท้องมิต้องไฟ
จึงเอาไม้เหล็กงอตะขอแทง

พอเผาศพเสร็จสรรพต่างกลับบ้าน
คืนนี้ผ่านค่อยมาอุษาแสง
สัปเหร่อเผลอพลาดอนาถแรง
พอรุ่งแจ้งกลับมาผวามอง

ทารกน้อยไม่ตายคล้ายนอนหลับ
พระเพลิงดับแต่ตัวไม่มัวหมอง
ผิวอร่ามงามปลั่งเหมือนดั่งทอง
บุญคุ้มครองผองภัยใครต่างชม

มีแผลเป็นคิ้วงอตะขอคร่า
จึงนามว่า สังกิจจะ เป็นปฐม
รู้เดียงสาสังเวชเหตุระทม
ขอบวชบ่มบุญญาบารมี

ญาติจึงมอบแด่สงฆ์องค์วิสุทธิ์
สาริบุตรเถระสง่าศรี
ปลงผมเสร็จอรหันต์ในทันที
เจ็ดขวบปีเท่านั้นบรรลุธรรม

อรหันต์เณรน้อยมิด้อยศักดิ์
เป็นที่รักอุปัชฌาย์ภิญญาล้ำ
ดังโกมุทผุดผ่องเป็นทองคำ
เป็นผู้นำหมู่สงฆ์องค์ต่อมา

จะกล่าวถึงพระสงฆ์ธุดงค์หมู่
หลังจากสู้ฝึกหัดพ้นวัสสา
หวังหลุดพ้นกลเหตุกิเลสพา
จึงทูลลาพุทธองค์ธุดงค์จร

พุทธองค์ทรงญาณผ่านพระเนตร
ทรงทราบเหตุขัดข้องต้องสังหรณ์
แต่หากได้สามเณรเป็นบวร
จะถ่ายถอนพิพัฒน์สวัสดี

จึงบอกสงฆ์จงลาสาริบุตร
ผู้เป็นดุจเชษฐาอย่าหน่ายหนี
จอมเถระอรหันต์ทราบทันที
องค์มุนีมีนัยจึงให้มา

 เคารพรัก

"มุนีน้อย"

(พรุ่งนี้มาต่อนะจ๊ะ ตำนานอิงธรรมะ ท่านใดชอบก็เชิญแนะนำและติชมเพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้.... ตบมือให้)

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

พยัญเสมอ, ไพร พนาวัลย์, รัตนาวดี, รพีกาญจน์, เพรางาย, yaguza, พี.พูนสุข, D, panthong.kh, ชลนา ทิชากร, เนิน จำราย, ศรีเปรื่อง

ข้อความนี้ มี 12 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 กุมภาพันธ์ 2014, 11:42:PM โดย muneenoi » บันทึกการเข้า

แต่งกลอนเพราะใจรัก
หนักใจเพราะตัณหา
เหว่ว้าเพราะฟุ้งซ่าน
สำราญด้วยพระธรรม..

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s