เหยียบยอดหญ้ายากย่าง น้ำค้างเยอะ
ฉ่ำแฉะเฉอะฉาบฉาย ตะกายโหน
โสมส่องแสงสดใส อยู่ไกลโพ้น
เยื่อใยโยนยังอยู่ ดูให้ดี
วับแวววาววูวาบ ซึมซาบจิต
มุ่งมองมาหมายมิตร มิคิดหนี
เปลี่ยนปวดปร่าเปรอไป ให้"มุนีฯ"
ทบทวนทีท่าทาง มิห่างไกล
ฝืนฝ่าเฝ้าฝันแฝง ทุกแห่งหน
รุ่งเร่งเร้าร้อนรน ทนรู้ไหม
"ศศิ"เศร้าโศกศัลย์ พลันลาไป
หวั่นหวาดไหวเหว่ว้า อย่าวายวาง
เทียวทาบทนทุกข์ท้อ รอสักหน่อย
เลือนล่วงลอยแล้วลา ก่อนฟ้าสาง
หักเหเหินห่างหาย แวววายวาง
เหม่อหม่นหมดหมองหมาง มาม่ามะ
"ดิน"
อารายเนี่ย
ย่องเหยียบย่ำยกย่าง น้ำค้างแหมะ
ฉ่ำเฉอะแฉะเฉิดฉาย นั่นใครน่ะ
คล้ายคนเคยคลอเคียง คุ้นเสียงจ๊ะ
ปืนโป้งปะปิดปาก หากย่องเบา
โสมส่องแสงสดสี ที่ใบหน้า
น้องนี่นานึกแน่ แม่ดินเผา
ดึกดื่นเดือนเด่นดวง ยังห่วงเรา
ใจจริงเจ้าแจ่มจันทร์ กว่าวันเพ็ญ
ชี้เชิญชวนแช่มชื่น ขึ้นบ้านเถิด
เพียงพบเพริศพริ้งพักตร์ จักคลายเข็ญ
ก่อกลับกลายกร่นกลุ้ม คุ้มลำเค็ญ
เปลี่ยนแปรเป็นปุ่มปัก พิทักษ์ตรา
ง่วงงุนงงงัวเงีย เพลียจงพัก
หากหิวหักหัวหอม อ่อมเลียงผา
แกงกบกินกลมกล่อม พร้อมกานดา
รอเรียมร่วมเริงร่า มาม่าโช้ย
"มุนีน้อย"
ฉ่ำเฉอะแฉะเฉิดฉาย นั่นใครน่ะ
คล้ายคนเคยคลอเคียง คุ้นเสียงจ๊ะ
ปืนโป้งปะปิดปาก หากย่องเบา
โสมส่องแสงสดสี ที่ใบหน้า
น้องนี่นานึกแน่ แม่ดินเผา
ดึกดื่นเดือนเด่นดวง ยังห่วงเรา
ใจจริงเจ้าแจ่มจันทร์ กว่าวันเพ็ญ
ชี้เชิญชวนแช่มชื่น ขึ้นบ้านเถิด
เพียงพบเพริศพริ้งพักตร์ จักคลายเข็ญ
ก่อกลับกลายกร่นกลุ้ม คุ้มลำเค็ญ
เปลี่ยนแปรเป็นปุ่มปัก พิทักษ์ตรา
ง่วงงุนงงงัวเงีย เพลียจงพัก
หากหิวหักหัวหอม อ่อมเลียงผา
แกงกบกินกลมกล่อม พร้อมกานดา
รอเรียมร่วมเริงร่า มาม่าโช้ย
"มุนีน้อย"