สังข์หลั่งน้ำ ลงรด จรดหัตถ์
เหมือนเชือกคอย ผูกมัด เราทั้งสอง
เมื่อวันเก่า เราเคยรัก เคยปรองดอง
เคยนั่งมอง แขกเหรื่อ มาล้นงาน
มาวันนี้ ใยใจ ถึงได้ช้ำ
สังข์หลั่งน้ำ เหมือนน้ำตา ที่ไหลผ่าน
หลั่งไหลลง บนหัวใจ ในวันวาน
ตอกย้ำว่า นงคราญ หมดสิ้นใจ
เป็นเพราะเรา รีบร่วน ด่วนสรุป
มิทันฉุก หยุดคิดก่อน แน่นอนไหม
ว่ารักนี้ จะไปรอด ถึงปลอดภัย
ก่อนหลังน้ำ รดหัวใจ ให้อาดูร
by Martin franck
เหมือนเชือกคอย ผูกมัด เราทั้งสอง
เมื่อวันเก่า เราเคยรัก เคยปรองดอง
เคยนั่งมอง แขกเหรื่อ มาล้นงาน
มาวันนี้ ใยใจ ถึงได้ช้ำ
สังข์หลั่งน้ำ เหมือนน้ำตา ที่ไหลผ่าน
หลั่งไหลลง บนหัวใจ ในวันวาน
ตอกย้ำว่า นงคราญ หมดสิ้นใจ
เป็นเพราะเรา รีบร่วน ด่วนสรุป
มิทันฉุก หยุดคิดก่อน แน่นอนไหม
ว่ารักนี้ จะไปรอด ถึงปลอดภัย
ก่อนหลังน้ำ รดหัวใจ ให้อาดูร
by Martin franck
มองเรือนหอ รอซับ รับน้ำสังข์
ที่รินหลั่ง ครั้งนั้น ฉันสิ้นศูนย์
ถูกสลัด ตัดใจ ไห้อาดูร
ทวีคูณ พูนพอก รักยอกใจ
มองน้ำสังข์ หลั่งริน สิ้นแล้วรัก
เฝ้าฟูมฟัก ภักดี เธอมีใหม่
เปลี่ยนจากเรา เคล้าอื่น ขื่นทรวงใน
สิ้นเยื่อใย ไกลห่าง ร้างรากัน
อยากถามนัก สักคำ ก่อนจำจาก
ที่เอยปาก จากใจ ไม่แปรผัน
บอกว่ารัก ภักดี ชั่วชีวัน
เธอหลอกฉัน ใช่ไหม คนใจดำ
ชลนา ทิชากร
ที่รินหลั่ง ครั้งนั้น ฉันสิ้นศูนย์
ถูกสลัด ตัดใจ ไห้อาดูร
ทวีคูณ พูนพอก รักยอกใจ
มองน้ำสังข์ หลั่งริน สิ้นแล้วรัก
เฝ้าฟูมฟัก ภักดี เธอมีใหม่
เปลี่ยนจากเรา เคล้าอื่น ขื่นทรวงใน
สิ้นเยื่อใย ไกลห่าง ร้างรากัน
อยากถามนัก สักคำ ก่อนจำจาก
ที่เอยปาก จากใจ ไม่แปรผัน
บอกว่ารัก ภักดี ชั่วชีวัน
เธอหลอกฉัน ใช่ไหม คนใจดำ
ชลนา ทิชากร