ละมือกอบจอบวางหยุดถางหญ้า
ทอดสายตาแสนไกลใจหม่นหมอง
หัวเข่าอ่อนหย่อนก้นนั่งยองยอง
วิตกสองทำเศิกมิเลิกลา
รอบมืดมัวทั่วไปร่างไร้ขวัญ
จนตะวันลอยลับกับขอบฟ้า
นกกระยางย่างเดินเนินคันนา
ลมโชยมาต้องผิวหวาบหวิวทรวง
พ้นละเมาะเลาะธารผ่านตลิ่ง
ดังถูกทิ้งตรอมตรมจมลงห้วง
เผชิญเหวเลวร้ายหมายตามทวง
จนเลยล่วงเข้ากลุ่มเขตชุมชน
สองฟากข้างทางเรียบดูเงียบเหงา
ยานยนต์เบาอ้อยอิ่งวิ่งถนน
รถเลี้ยวโค้งตรงแยกแปลกพิกล
สีหน้าคนบูดบึ้งขึ้งทักทาย
ต่างระแวงแคลงใจไว้ปกปิด
เพื่อนสนิทเย้าแหย่แค่สหาย
รีบจัดแจงแดงเหลืองเปลื้องจากกาย
อันตรายเน่าน่วมถ้าสวมมัน
เหตุเช่นนี้กี่มื้อฤาจะหมด
จะให้อดกี่นานสมานฉันท์
ก่อนสิ้นลมก้มหน้าจ่อมจาบัลย์
คงมีวันสักคืนสุขชื่นใจ
รพีกาญจน์