Re: @..รินคำกลอน..@
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 07:29:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: @..รินคำกลอน..@  (อ่าน 7644 ครั้ง)
Shumbala
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 463
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490



« เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2013, 01:44:PM »


นั่งเขียนกลอน ตอนสี่ทุ่ม กุมขมับ
ไร้คนรับ คนตอบ รอบมองหา
แสนว้าเหว่ จริงเจ้า เขาไม่มา
อนิจจา ลืมรัก ภักดิ์มั่นคง

หรือลืมเรา เศร้าจัง นั่งมองฟ้า
นับดารา พันเที่ยว เปลี่ยวใจส่ง
ไร้วี่แวว เงียบงัน จันทร์คล้อยลง
น้ำตาตรง ล้นปรี่ ฤดีช้ำ

เวลาเลื่อน เคลื่อนไป ใจเต้นตึก
ให้สะอึก ในทรวง ดวงเดือนต่ำ
ทิวสนส่าย ไปมา พาระกำ
เมฆสีดำ ลอยลับ ทับจันทร์เพ็ญ

ความมืดมิด ปิดบัง พลังแสง
ใจอ่อนแรง โรยร้าง พลางขมเข่น
ฤดีน้อย ระห้อยไห้ ใจลำเค็ญ
ไม่วายเว้น เส้นรัก หักลงพลัน

หากขืนรอ ต่อไป ฤทัยทรุด
รักชำรุด สุดสายป่าน ม่านตาฉัน
คงริบหรี่ เช่นเก่า เหงาจาบัลย์
อาจถึงวัน สิ้นเยื่อ ไม่เหลือใย

นั่งเขียนกลอน ตอนนี้ สี่ทุ่มครึ่ง
ยังรำพึง ห่วงหวง พวงแก้มใส
รีบตอบถ้อย ร้อยพจน์ หยดน้ำใจ
พอฉันได้ ชื่นจินต์ รินคำกลอน
พันทอง
๒๓/๑๑/๕๖


ม่านราตรีคลี่ฟ้าเหมือนล้าหลับ
โอบกระชับผืนโลกเช่นโศกซ่อน
แสงเคยรินสิ้นแววแล้วจันทร
กลีบฝันรอนร่วงลับลงกับลาน

ร้อยคำกลอนวอนสิ้นทั้งดินฟ้า
จงนำพาจันทร์คืนสู้ขื่นขาน
จะรอคอยรอยโสมประโลมมาน
ประดับธารดาวดวงด้วยห่วงใย

แล้วรินแสงแห่งฝันรับขวัญสรวง
ประทินรวงรุ้งจันทร์อันแขไข
ชโลมมนหม่นหมองของคนไกล
จากดวงใจจารจดจนหมดจินต์

 เคารพรัก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

D, ชลนา ทิชากร, สุวรรณ, panthong.kh, พี.พูนสุข, --ณัชชา--, รพีกาญจน์, สะเลเต, เนิน จำราย, ไพร พนาวัลย์, ปู่ริน, ~ขลุ่ยกันแสง~, จารุทัส

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s