ผมเองก็มี กลอน ที่ใช้เสียงตรีที่ท้ายวรรคสอง มาแชร์กันครับ
"ถึงปวดร้าวปานหทัยถูกใครม้าง
ก็ขอขว้างรักเก่ามิเอาไว้
แล้วออกดั้นเดินป่าพนาไพร
ประจากสาวแก้มใสแต่ใจดำ"
ศรีเปรื่อง
"ไว้" ที่ท้ายวรรค 2 หากอ่านทำนองเสนาะ ก็อาจได้ยินเสียงเป็น "ไหว" หรือ "หวาย"
ปล.
แฮะ ๆ "ทะม้าง" นี่ไม่ทราบจริง ๆ ครับ
ถึงปวดร้าวเจียนจินต์ภินทะม้าง
ท่าน toshare เป็นงงกับศัพท์ประหลาดของผม
คือ คำนี้ผมดึงเอาลักษณะของฉันท์มาใช้ในกลอน
ภินทะม้าง = ภินท+ม้าง (ที่ใส่ อะ ไว้ด้วยก็เพราะกลัวคนอื่นไม่อ่านออกเสียงตามที่ผมตั้งใจ)
แนวคิดมาจากคำว่า "ภินท์พัง" ซึ่งเป็นการเอาคำสองคำที่มีความหมายในทำนองว่า "ทำลาย" มาวางซ้อนกัน
ผมก็เลยเกิดไอเดียประเจิดเอา "ม้าง" มาแทนที่ "พัง" ซะเลย
แต่คิดไปคิดมา...ผมเขียนกลอนอยู่นี่นา ก็เลยแก้ใหม่ตามที่เห็นข้างบนครับ
ขอบคุณท่าน toshare ครับ ที่ทักท้วง ไม่ปล่อยให้ผมเล่นสนุกตามอำเภอใจ