...............................
นิราศร้าง แรมรอน อ้อนเวหา
ต้องจำพราก จากกัน หวั่นอุรา
ไม่รู้ว่า เมื่อไหร่ ได้หวนคืน
เคยได้ยล หอศิลป์ ถิ่นเลอค่า
งามจับตา ต้องกมล ดลจิตชื่น
วัฒน- ธรรมล้น จนต้องยืน
ตะลึงงัน กลั้นฝืน สะอื้นทรวง
กาญจนา- ภิเษก ดั่งเสกแต่ง
ศูนย์รวมแหล่ง ค้นคว้า มาทุกช่วง
สร้างสำนึก ตรึกตรอง เรืองรองรวง
งามระยับ เด่นดวง พวงพริ้งพราย
เป็นรากฐาน ของชาติ ประกาศก้อง
เป็นแดนทอง ผองไทย ใจมุ่งหมาย
สืบเสาะเสริม สรรค์สร้าง อย่างรุ้งราย
ลูกหลานยาย ได้เรียนรู้ อยู่สืบไป
มีหลายห้อง ตกแต่ง แบ่งตามชื่อ
ซ้ายขวาคือ ห้องภูมิเมือง เรื่องลือไหม
จัดแสดง แหล่งแร่ธาตุ ภูมิศาสตร์ไทย
อีกป่าไม้ น้ำโขง -มูล เพิ่มพูนจริง
ห้องภูมิราช ธานี ที่ซีกขวา
ช่างงามงด จรดฟ้า สง่ายิ่ง
มีเรื่องราว กล่าวไว้ ใช้อ้างอิง
ล้วนทุกสิ่ง ตั้งแต่สร้าง เมืองอุบล
อีกหลายยุค หลายสมัย จัดไว้แน่น
รวมถึงแก่น การปกครอง จำท่องบ่น
ทั้งรายชื่อ สส. แต่ละคน
เชิญไปยล ถิ่นฐาน บ้านดอกบัว
ห้องภูมิธรรม นำใจ ใสผ่องแผ้ว
คงไม่แคล้ว ศาสนา สง่าทั่ว
ฮีดสิบสอง ครองสิบสี่ ดีพอตัว
มิหมองมัว ศีกษา พาฉ่ำจินต์
ห้องสุดท้าย ภูมิปัญญา ว่าไปนั่น
แบ่งจัดสรร หยูกยา อาหารสิ้น
สมุนไพร ตนตรี มีเสียงพิณ
หมอลำดิ้น เข้าขั้น พลันระบม
มองเหลียวหลัง นั่งรถ อดหวั่นไหว
ต้องลาไป ใจฝืน ยิ่งขื่นขม
หมองหม่นไหม้ ฤทัยซุก ทุกข์ระทม
เฝ้าตรอมตรม ถึงสถาน บ้านเมืองเอย
พันทอง
๘/๑๑/๕๖
สิบบทตามที่ขอ น้องไม่ได้บอกว่าจะใช้เมื่อไหร่
ใช้เนื่องในงานอะไร พี่ก็ไม่ได้แต่งนิราศเก่งหรอก แค่งูๆ ปลาๆ
แต่ก็พยายามแต่งให้ เพราะเห็นว่าน้องคงแต่งไม่ได้จริงๆ