ไม่รู้เหมือนกันแฮะ ผมรู้เฉพาะวิธีแต่งเท่านั้นไม่เคยรู้ประวัติความเป็นมาของกลอน
ที่แต่งอยู่ทุกวันนี้ก็อาศัยดูแบบอย่างที่คนรุ่นเก่าๆแต่งไว้ อ่านแล้วสังเกตเอาว่าเขาใช้คำยังไง
วางเสียงสูงเสียงต่ำยังไง ลงสัมผัสตรงไหน กลอนส่วนมากเขียนยังไงเราก็แต่งไปตามนั้น
หรือจะพูดให้ฟังง่ายเข้าก็เป็นพวกครูพักลักจำนั่นแหละไม่ใช่ผู้รอบรู้อะไรหรอก
ถ้าจะถามว่าเคยมีการคัดค้านไหม ก็ใครจะกล้าไปคัดค้านเล่าครับ
ในเมื่อเราต้องเป็นฝ่ายไปเรียนรู้จากเขา เราคือเด็กครับไปเรียนพูดเรียนเขียนจากผู้ใหญ่
ถ้าไปคัดค้านแล้วเมื่อไหร่จะได้ความรู้กันครับ
การคัดค้านผมจะคัดค้านเฉพาะสิ่งที่ผมเคยรู้มาก่อนแล้ว
อาทิเช่นนักกลอนในรุ่นหลังบอกว่าห้ามลงสัมผัสซ้ำ ที่จริงเรารู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นถูกต้อง
เพราะการแต่งกลอนที่ดีก็ควรเลี่ยงสัมผัสซ้ำ กลอนที่มีแต่สัมผัสซ้ำไม่ใช่กลอนที่น่าฟัง
แต่เราก็รู้อีกว่าในกรณีที่จำเป็นจะต้องลงจริงๆก็ลงได้แม้ว่านักกลอนส่วนใหญ่จะไม่ยอมรับก็ตาม
เราลงเพื่อความเหมาะสมต่อเรื่องนั้นไม่ใช่การจนภูมิ แต่ลงเพื่อสื่อความหมายที่ชัดเจน
ยกตัวอย่างเช่นกลอนบทหนึ่งในนิลาศเกาหลีที่เห็นหลายๆคนชอบหยิบยกมาเป็นตัวอย่าง
"ช่างกำเริบเสิบสานทหารชั่ว
อย่ากเป็นผัวนางนี่ร้อยตรีสาว
วินัยอ่อนหย่อนดื้อแถมมือกาว
พบนายสาวไม่คำนับเข้าจับตัว"
ในกลอนตัวอย่างนี้มีผู้รู้หลายท่านเคยวิจารณ์ว่าลงไม่ได้ แต่เมื่อพิจารณาจากเนื้อเรื่องแล้วผมมีความเห็นส่วนตัวว่าลงได้
เพราะในเนื่อเรื่องพูดถึงร้อยตรีสาว ถ้าผู้แต่งเขาอยากจะใช้คำอื่นเขาย่อมทำได้แต่เขาไม่ทำเพราะเขาต้องการสื่อความหมายถึงร้อยตรีสาวจริงๆ
ทีนี้สมมุติเกิดไม่ลงด้วยตรีสาวลองเป็นเป็นคำอื่นๆดู
"ช่างกำเริบเสิบสานทหารชั่ว
อย่ากเป็นผัวนางนี่ร้อยตรีสาว
วินัยอ่อนหย่อนดื้อแถมมือกาว
พบนายบ่าวไม่คำนับเข้าจับตัว"
"ช่างกำเริบเสิบสานทหารชั่ว
อย่ากเป็นผัวนางนี่ร้อยตรีสาว
วินัยอ่อนหย่อนดื้อแถมมือกาว
พบนาห้าวไม่คำนับเข้าจับตัว"
"ช่างกำเริบเสิบสานทหารชั่ว
อย่ากเป็นผัวนางนี่ร้อยตรีสาว
วินัยอ่อนหย่อนดื้อแถมมือกาว
พบนายขาวไม่คำนับเข้าจับตัว"
"ช่างกำเริบเสิบสานทหารชั่ว
อย่ากเป็นผัวนางนี่ร้อยตรีสาว
วินัยอ่อนหย่อนดื้อแถมมือกาว
พบนายยาวไม่คำนับเข้าจับตัว"
"ช่างกำเริบเสิบสานทหารชั่ว
อย่ากเป็นผัวนางนี่ร้อยตรีสาว
วินัยอ่อนหย่อนดื้อแถมมือกาว
พบนายคล้าวไม่คำนับเข้าจับตัว"
คือเปลี่ยนมันเปลี่ยนได้ แต่อ่านแล้วมันตลกดี ถึงยังไงลงด้วยพบนายสาวฟังดูดีกว่า สื่อความได้ชัดเจนกว่า
อีกเรื่องหนึ่งคือ เรื่องพยัญชนะเดียวกันสระเดียวกันแต่ต่างวรรณยุกต์ก็ลงไม่ได้อีก
เช่นลงกัน จะไปลงกั้นอีกไม่ได้ ถือว่าซ้ำ ขาว ข่าว ข้าว สัน สั่น สั้น ไหม ใหม่ ไหม้ เพราะถือว่าลงซ้ำ
เรื่องนี้ผมเถียงหัวเด็ดทีนขาดครับ ยังไงผมก็เห็นว่าลงได้ เพราะพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตเขาก็ให้ความหมายอยู่แล้วว่า
เป็นคนละคำ คนละความหมายไม่เกี่ยวกัน ถ้าเรื่องแค่นี้นักกลอนยังแยกไม่ออกกรุณาอย่ายกตนเป็นผู้รอบรู้เรื่องภาษาเด็ดขาด อายชาวบ้านเขาครับ
ชาวบ้าน ตาสีตาสา หรือเด็กป.4 ก็ยังรู้ว่าเป็นคนละคำคนละความหมาย
โดยมากที่ผมมักจะออกมาเขียนคัดค้าน ก็เฉพาะเรื่องที่ผมรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเรื่องนั้นๆนักกลอนรุ่นเก่า(ที่เก่ากว่าคนที่ชอบออกมาวางกฏเกณฑ์)เขาเคยทำเขาเคยเขียนมาแล้ว
แล้วกฏเกณฑ์บางอย่างมันก็ไม่ได้มีมาแต่เดิม เป็นสิ่งที่นักกลอนรุ่นใหม่มากำหนดเอาภายหลัง บางอย่างเราเห็นถูกต้องเราก็ทำตาม
แต่บางอย่างที่เราเห็นว่าไม่ถูกต้องหรือเกินงามไปเราก็ไม่จำเป็นจะต้องทำตามก็ได้
แต่เรื่องเสียงวรรณยุกต์ท้ายวรรคของกลอนแปดที่คุณถามมา เป็นเรื่องที่เราต้องเคารพและต้องทำตามครับ ไม่งั้นกลอนที่เราเขียนคงไม่เรียกว่ากลอนแปด
หรืออย่างน้อยที่สุดก็คงไม่ใช่กลอนแปดแบบที่เขานิยมกัน แต่อาจจะเป็นได้แค่กลอนแปลก
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน |
21 พฤศจิกายน 2024, 05:32:PM | |||
|
ผู้เขียน | หัวข้อ: คำถามในฉันทลักษณ์กลอนแปด (อ่าน 25661 ครั้ง) |
| ||||||||||
Email: