ราตรีนี้ แสงดาว คงร้าวหมอง
เมื่อแววตา เจ้าส่อง ประคองฝัน
งามอื่นใด ในหล้า มิกล้าประชัน
ยามนัยน์ตา เจ้านั้น เอียงหันมา
บุปผชาติ ทั่วภพ ต้องจบสิ้น
เมื่อไอกลิ่น เจ้าหอม เกินพฤกษา
แม้นหยาดเพชร เก็จแก้ว แพรวจินดา
ฤา หยาดฟ้า พักตร์พริ้ม เท่ายิ้มนวล
หมู่อัปสร คงอาย ลี้กายหลบ
เมื่อพานพบ โฉมขวัญ สวรรค์ป่วน
ถึงเทวา องค์อินทร์ หมดสิ้นกระบวน
คงคร่ำครวญ ถึงเจ้า ทุกเช้าเย็น
เมื่อแววตา เจ้าส่อง ประคองฝัน
งามอื่นใด ในหล้า มิกล้าประชัน
ยามนัยน์ตา เจ้านั้น เอียงหันมา
บุปผชาติ ทั่วภพ ต้องจบสิ้น
เมื่อไอกลิ่น เจ้าหอม เกินพฤกษา
แม้นหยาดเพชร เก็จแก้ว แพรวจินดา
ฤา หยาดฟ้า พักตร์พริ้ม เท่ายิ้มนวล
หมู่อัปสร คงอาย ลี้กายหลบ
เมื่อพานพบ โฉมขวัญ สวรรค์ป่วน
ถึงเทวา องค์อินทร์ หมดสิ้นกระบวน
คงคร่ำครวญ ถึงเจ้า ทุกเช้าเย็น
ราตรีนี้ แสงดาว วับวาวไหว
ผ่องอำไพ ดารา เจิดจ้าเห็น
ในท่ามดาว พราวระยับ กับเดือนเพ็ญ
สวยเยือกเย็น สดใส ใจงามงอน
จำเรียงถ้อย ร้อยผ่าน เป็นสาส์นสื่อ
หนึ่งโสมหรือ หาญดวล มวลอัปสร
มิอาจกล้า ท้านำ พร่ำเว้าวอน
ชะออดอ้อน เอื้อนเอ่ย เผยวจี
เจ้าโสมกราบ ทราบคำชม ภิรมย์ชื่น
ยิ้มระรื่น หมื่นกมล ดลสุขขี
ปลึ้มหทัย ไหนเหมือน เยือนมากมี
ดั่งนที ไหลพร่างฯ สู่นางดิน..
หนึ่งโสม