เสียงพร่าเบลอเหน่อยาวของสาวน้อย
โบกหยอยหยอยลาเนาถิ่นเก่าหลัง
แต่งงานคู่ผู้หลากมากสตังค์
สู่เวียงวังกรุงศิวิไลวัณณ์
ก้อนอะไรไม่รู้จู่จู่ผุด
ขึ้นมาอุดในท่อคออัดอั้น
แน่นอกซ้ายหายใจฝืดตีบตัน
ถุงไข่ในมือพลันหล่นกระจาย
ก็เมื่อวานขานวจีกับศรีเปรื่อง
ย้ำเนืองเนืองชั่วฟ้าดินสลาย
รักรพีไม่มีลับเลือนกลับกลาย
ชั่วคืนผายผันไกลสิ้นไมตรี
นับหนึ่งปีสี่เดือนยังเตือนจิต
ยากจะปิดความตรมขมเหลือที่
หลั่งน้ำตามาอวยพรคนดี
พบสุขี จากชาย นั่งปลายนา
บอกลุงไพรหมอก็ช้ำทำไงดี?
[/size][/center]
โบกหยอยหยอยลาเนาถิ่นเก่าหลัง
แต่งงานคู่ผู้หลากมากสตังค์
สู่เวียงวังกรุงศิวิไลวัณณ์
ก้อนอะไรไม่รู้จู่จู่ผุด
ขึ้นมาอุดในท่อคออัดอั้น
แน่นอกซ้ายหายใจฝืดตีบตัน
ถุงไข่ในมือพลันหล่นกระจาย
ก็เมื่อวานขานวจีกับศรีเปรื่อง
ย้ำเนืองเนืองชั่วฟ้าดินสลาย
รักรพีไม่มีลับเลือนกลับกลาย
ชั่วคืนผายผันไกลสิ้นไมตรี
นับหนึ่งปีสี่เดือนยังเตือนจิต
ยากจะปิดความตรมขมเหลือที่
หลั่งน้ำตามาอวยพรคนดี
พบสุขี จากชาย นั่งปลายนา
บอกลุงไพรหมอก็ช้ำทำไงดี?
[/size][/center]
รอเธอตอบทั้งคืนนอนตื่นหลับ
นั่งปะหงับทุรนดังคนบ้า
หรือตัวพี่นี้ไซร้ไร้ราคา
เช่นลิงลาต่างอ้อยลงดอยไพร
ตรวจทำนายทายทักรักคนอื่น
เขาขมขื่นดูแลช่วยแก้ไข
กลับปล่อยปละละเล็งตัวเองไป
โกรธทีไรอยากโยนเตาเผาตำรา
รพีกาญจน์