กลีบกุหลาบไกวแกว่งรับแสงสาง เหือดน้ำค้างระเหยหายกลางสายสูรย์ กลีบเริ่มโรยราท่ามความอาดูร ที่พอกพูนถมทับกับกมล หรือความรักจักเลือนเหมือนกุหลาบ เหลือรอยคราบน้ำตาครั้งลาหล่น เพียงทิวาราตรีกาลได้ผ่านพ้น ไม่กี่หนกิ่งรักก็หักกลาง ชะรอยเราผู้เดียวยังเกี่ยวเก็บ กอดความเจ็บเคยกรายมิหายห่าง ยิ่งพร่ำเรียกเพรียกหายิ่งราร้าง ยิ่งคร่ำครางครวญคอยยิ่งลอยไกล กุหลาบรานบานใหม่พอให้หวัง รักกลายชังเกินจะสานให้บานใหม่ ก้มหน้านับอัสสุชลบนลานใจ จะหมายใดในเมื่อไม่เหลือรอย กลีบกุหลาบฉาบฉายสายอุษา อรุณทอแสงทาหรือกล้าสอย เมื่อมิใช่นฤมลของคนคอย ก็จะปล่อยเจ้าไปตามใจปอง Shumbala | น้ำค้างพราง พร่างพรม ประโลมแผ่ว เพียงเก็จแก้ว แพรวพราว สกาวต้อง ใสสะอาด ผาดผุด ค่าดุจทอง ไอละออง ผ่องแผ้ว แวววาววาม กลีบกุหลาบ ฉาบฉาย สายน้ำค้าง พรมเบาบาง พรางพราย ประกายหวาม หยดเมตตา พาพ้น ยลทุกยาม แค่ในนาม งามจริง ไร้สิ่งแทน ฟื้นชีวิต จิตชื่น คืนสดใส ยลโลกใหม่ ไอฝุ่น ที่ขุ่นแสน หยาดน้ำค้าง กางกั้น คั่นหนึ่งแดน คล้ายอ้อมแขน แหนห่วง คราทรวงตรอม พาเพริศแพร้ว แล้วทิ้ง ใช่สิ่งนี้ ทางวิถี มีเรา เฝ้าถนอม หากวันหนึ่ง ปึ่งเกิน เชิญเถิดน้อม กลีบพะยอม พร้อมพลี ให้บีฑา กลีบกุหลาบ ทาบทาง วางลงแล้ว บนลานแก้ว แพรวพริ้ง ยิ่งล้ำค่า ศิโรราบ ทราบไว้ เพราะใจพา ในสายตา หรือไม่ หรือไกลเกิน "ดิน" |
กลิ่นกุหลาบอาบกานท์สานอักษร
ยังขจรกับมานแม้นานเนิ่น
จะปักก้านผ่านใจให้เจริญ
ใช่เพลิดเพลินเพียงพอก็ลาไกล
เจ้าเลอค่าคู่ควรชวนถวิล
ประดับจินต์อย่างประจงด้วยหลงใหล
รอระบัดดอกงามตามช่อใบ
สถิตไว้ในทรวงมิร่วงราน
และจะเป็นเช่นนี้มิมีเปลี่ยน
ถึงจำเนียรกว่านับที่ขับขาน
แม้กลีบเจ้าเฉาโรยโดยสายกาล
แต่จะบาน ณ.ลานใจไม่ผันแปร
ยังขจรกับมานแม้นานเนิ่น
จะปักก้านผ่านใจให้เจริญ
ใช่เพลิดเพลินเพียงพอก็ลาไกล
เจ้าเลอค่าคู่ควรชวนถวิล
ประดับจินต์อย่างประจงด้วยหลงใหล
รอระบัดดอกงามตามช่อใบ
สถิตไว้ในทรวงมิร่วงราน
และจะเป็นเช่นนี้มิมีเปลี่ยน
ถึงจำเนียรกว่านับที่ขับขาน
แม้กลีบเจ้าเฉาโรยโดยสายกาล
แต่จะบาน ณ.ลานใจไม่ผันแปร