ต่อจากท่านศรีเปรื่อง เอ๊ย ต่อสัมผัสจาก้อย ลงท้ายใจ สระไอ
บทกวีที่ประพันธ์นั้นหลายหลาก
บ้างพวกลากพวกลักพวกผลักไส
เหมือนหลายเผ่าพงษ์ปลามาร่วมไซ
ก็ย่อมใส่อารมณ์สมว่ายวน
มีกระทบกระทั่งทั้งกระแทก
ก็ว่ายแหวกเวียนวกทั้งตกหล่น
อาจเยือกเย็นโอนอ่อนหรือร้อนลน
ล้วนมากล้นจนปรี่ที่บ้านกลอน
เพราะต่างคนต่างมาอัชฌาศัย
ก็ย่อมใส่อารมณ์เพาะบ่มหลอน
เหมือนคลื่นซัดหาดเห็นเป็นลอนลอน
ทั้งเขาหล่อนจึงหลากมากมายมี
ทั้งอ่อนเชิงเก่งชั้นนั้นหลากหลาย
วาดลวดลายได้เห็นเป็นศักดิ์ศรี
เหมือนแบ่งยศแบ่งชั้นเป็นขั้นซี
สองสามสี่ห้าหกยกกันไป
ส่วนตัวเราเท่านี้แม้มีขั้น
แต่ความคันนั้นมากจนหลากไหล
บ้างเขาชอบบ้างชังว่าจังไร
เพราะลูบไล้ถูกปมก็ตรมตรอม
เพราะเป็นคนชอบคนคนไม่ชอบ
คนจึงตอบโต้ใส่ไม่ถนอม
เขาขาดรักปรานีมิประนอม
เรามิน้อมนอบนบก็จบกัน
ความต่างแตกแยกเห็นเป็นหมู่หมู่
เหมือนเนื้อหมูแยกไปตามใจฉัน
มีทั้งเปลวเนื้อล้วนชวนประชัน
หมูสามชั้นหั่นชิ้นก็กินดี
อันบทกลอนหลายหลากมากมายอยู่
เหมือนสายยูสลักคล้องคลองวิถี
ผู้เสพอ่านผ่านตาในวาที
ย่อมเป็นที่เบิกบานสำราญใจ
หากเหมือนกันทุกอย่างในทางแต่ง
ก็เหมือนแตงชนิดเดียวสุดเคี้ยวไหว
เพียงไม่นานผ่านเนื้อก็เบื่อไว
มีแปลกไว้ประดับบ้างยังเพลิดเพลิน
Orion264(มือขวา)



อ่านกลอนผมแล้วอาจต้องทำใจนิดหน่อย......
