เราต่างคือภาพฝันของวันผ่าน ละเลยกาลปัจจุบันลุวันพรุ่ง ด้วยภาพหลอนซ้อนแฝงการแต่งปรุง ในขอบคุ้งปรารถนาของมายา คืออรุณรุ่งรางกลางม่านหมอก ที่เย้าหยอกยั่วยวนชวนค้นหา คือเรือน้อยลอยล่องท้องคงคา ที่สายลมวันเวลาพัดพาไกล ในอ้อมกอดภาพฝันของวันเก่า เอื้อมคว้าเงาความแปรผันของวันใหม่ จากสิ่งหนึ่งสู่สิ่งหนึ่งซึ่งเป็นไป สุดท้ายไยยังพร่องและหมองมัว ดอกไม้ของวันวานบานแล้วร่วง ทับถมห้วงทรงจำเทียวย้ำยั่ว จึงหลับใหลไหวหวาดและขลาดกลัว เกินยิ้มหัวกับความตามเป็นไป รอเมฆหมอกคืนคลายรับสายสูรย์ ความอาดูรลับเลือนมิเคลื่อนไหว สัมผัสรู้ถ้วนทั่วด้วยหัวใจ เราคงเห็น..ดอกไม้งาม..ในยามนี้ Shumbala | จดจำภาพ ฉาบหวาน วันวานย้อน ละมุนอ่อน ผกา พนาสี พฤกษ์ไพรพง ดงชัฎ ปัฐพี วนาลี มีค่า ผาสุขพอ ไอไหมหมอก หยอกเย้า เคล้ายอดหญ้า เย็นบุปผา ป่าเปลี่ยว มิเหี่ยวห่อ รากกิ่งใบ ใสชื่น ระรื่นคลอ หยาดพะนอ ล้อกลิ้ง อิงแอบกัน อรุณรุ่ง รุ้งฉาย ปลายขอบโค้ง ดุจเชื่อมโยง คงหลัก ถักทอฝัน แสงรพี รี่เยือน เหมือนแบ่งปัน พฤกษ์ไพรสัณฑ์ สันต์สู่ มิรู้ดาย เย็นธารา การุณย์ พิรุณเอื้อ อาทรเจือ เผื่อริน มิสิ้นสาย วายุโบก โยกเยือน มิเลือนคลาย มาลีฉาย พรายเพริศ เลิศเปรมปรีด์ วันปีเดือน เคลื่อนคล้อย หมุนลอยคว้าง เศษเบาบาง ลางหลง ไม่คงที่ ไร้ค่าใน ตัวตน หม่นฤดี แค่ธุลี ดินด้อย ลอยเวียนวน "ดิน" |
บนหนทางย่างก้าวที่ยาวทอด
สู่อ้อมกอดคืนวันอันสับสน
เราต่างมีภาระประจำตน
วิถีคนยากฝืนขืนชะตา
เพียงหนึ่งใจคงมั่นมิผันเปลี่ยน
ลิขิตเขียนความเป็นไปในโลกหล้า
แม้ขมขื่นยืนหยัดด้วยศรัทธา
จึงอาจฝ่าข้ามไปในหนทาง
ฟ้ายังคงงดงามในยามนี้
แสงรวียังเฉิดฉายมิหายห่าง
สายสัมพันธ์โยงใยไม่จืดจาง
จะมีเราเคียงข้างแม้ห่างไกล
สู่อ้อมกอดคืนวันอันสับสน
เราต่างมีภาระประจำตน
วิถีคนยากฝืนขืนชะตา
เพียงหนึ่งใจคงมั่นมิผันเปลี่ยน
ลิขิตเขียนความเป็นไปในโลกหล้า
แม้ขมขื่นยืนหยัดด้วยศรัทธา
จึงอาจฝ่าข้ามไปในหนทาง
ฟ้ายังคงงดงามในยามนี้
แสงรวียังเฉิดฉายมิหายห่าง
สายสัมพันธ์โยงใยไม่จืดจาง
จะมีเราเคียงข้างแม้ห่างไกล