ก้อย...เกะกะเกียกกายมาร่ายพจน์
เริ่มรวมรสจดจารผสานศิลป์
เรียงลำนำคำร้อยด้อยกวิน
แค่ร่ายรินจินตนาตามอารมณ์
มีเบาหนักหลักเกณฑ์มิเด่นชัด
ตามถนัดงัดแงะกระแซะขม
บื้อเบาบางร้างไร้ในคำคม
ทั้งโง่งมจมปลักแสนดักดาน
มีดาวเดียวเขียวโด่โผล่มาหนึ่ง
มองจนซึ้ง...?อึ้งนักมิยักผ่าน
ลอยวนเวียนเกรียนสมองจ้องมานาน
โปรดประทานวานมอบปลอบกมล
ขออีกดวงพ่วงข้างร่างมิแกว่ง
น้องขอแบ่งได้ไหมใจชักสน
มีสามเกินเดินแทรกแปลกพิกล
อย่าคิดบ่นหม่นก้อยแค่ร้อยเรียง
อุตส่าห์จ้างโปรโมทโครตแพงฉิบ
ตั้งยี่สิบเขียนสื่อหรือก็เสี่ยง
แค่หกบทลดนะจะคลอเคียง
บาทเดียวเพียง ค่าจ้าง รับหลังไมค์
ก้อย
ในวันที่กวีกานท์บรรณสานใส
คอยพร่างพรมคมคำร่ำจากใจ
อิ่มละไมลึกล้ำคำกวี
อยากฟังถ้อยร้อยชั่งสักพันครั้ง
ฟังและฟังปริ่มหวังยังสุขศรี
บรรเลงพจน์เถิดหนาโปรดปรานี
กล่อมชีวีโลกหล้าอย่าคิดไกล
แม้ดาวเดียวเปลี่ยวเปล่าอาจเหงาบ้าง
จงปล่อยวางและสร้างทางเดินใหม่
เชื่อและมั่นศรัทธาเด่นที่เป็นไป
ลำนำใจเจ้าจะเพริดเฉิดกระจาย
หวังในหวังเรืองรองต้องถึงฝั่ง
เพียงตั้งมั่นมอบดาวไปในความหมาย
ทั้งสามดวงห่วงด้วยรักมาทักทาย
ฝากเอาไว้ประดับฝันอย่าหวั่นจินต์
ขอแค่ดาวในใจเจ้าใสสด
คำจะหยดหยาดพรูไม่รู้สิ้น
ด้วยความแกร่งแห่งเพชรใช่เม็ดดิน
และไม่ภินท์พังตามยามเวลา
ขอจบกลอนหกบทรสแห่งถ้อย
อาจจะน้อยด้อยคำนำสรรหา
แต่กลั่นจากหัวใจในวิญญา
รับรู้ว่ายังมีคนที่รอ
///////////////
พงศภัณฑ์
๓/๙/๕๖