นั่งเขียนกลอนตอนดึกนึกไหวหวั่น
เราไกลกัน..เวลาต่าง พาห่างเหิน
เธอพบคนข้างใจ..ใช่บังเอิญ
ความหมางเมินรู้ได้ในถ้อยคำ
หัวใจฉันยังรัก..ภักดีเสมอ
เกรงรอเก้อ..ใจเต้นไม่เป็นส่ำ
ผ่านรัตติกาลจวบเช้าเฝ้าระกำ
ขับลำนำรินหลั่งทั้งน้ำตา
นั่งเขียนกลอนยามหนาว..ใกล้เช้าแล้ว
ยินเสียงแผ่ว น้ำค้างหล่น..บนใบหญ้า
ฟ้าร้องไห้กับฉันทุกวันมา
ลืมสัญญาหรือไร..จึงไม่แคร์
• แซม •
นั่งเขียนกลอนตอนดึกนึกสัมผัส
เงียบสงัดคัดหลงคงต้องแก้
หวังตอบหล่อนก่อนนาชายตาแล
เจ้าดวงแขแหลมาว่าข้าเมิน
เวลาต่างห่างกันวันสลับ
คอยนั่งนับจับจ่อรอกล่าวเกริ่น
เจอแล้วหนายาใจใช่บังเอิญ
ขอเพลิดเพลินเชิญนั่งรับฟังกัน
ขึ้นต้นอย่างไรดีมีประหม่า
กับคำว่าคนใหม่ข้างใจฉัน
หามาจากที่ไหนได้จำนรรจ์
ความผูกพันแค่เขียนร่ำเรียนกลอน
ยินน้ำค้างร่วงหล่นบนใบหญ้า
คือน้ำตาของฉันมันกัดกร่อน
จงอภัยเถิดนะมาอ้อนวอน
อย่าตัดรอนอย่าห่างอย่าร้างไป
ดาวดวงหนึ่งสกาวเด่นเส้นขอบฟ้า
คิดจากลาแล้วหรือคือไฉน
มิคิดถึงคนหนึ่งซี่งแดนไกล
ที่หัวใจเริ่มสลายกลายธุลี.
นพ
29ส.ค.56
เงียบสงัดคัดหลงคงต้องแก้
หวังตอบหล่อนก่อนนาชายตาแล
เจ้าดวงแขแหลมาว่าข้าเมิน
เวลาต่างห่างกันวันสลับ
คอยนั่งนับจับจ่อรอกล่าวเกริ่น
เจอแล้วหนายาใจใช่บังเอิญ
ขอเพลิดเพลินเชิญนั่งรับฟังกัน
ขึ้นต้นอย่างไรดีมีประหม่า
กับคำว่าคนใหม่ข้างใจฉัน
หามาจากที่ไหนได้จำนรรจ์
ความผูกพันแค่เขียนร่ำเรียนกลอน
ยินน้ำค้างร่วงหล่นบนใบหญ้า
คือน้ำตาของฉันมันกัดกร่อน
จงอภัยเถิดนะมาอ้อนวอน
อย่าตัดรอนอย่าห่างอย่าร้างไป
ดาวดวงหนึ่งสกาวเด่นเส้นขอบฟ้า
คิดจากลาแล้วหรือคือไฉน
มิคิดถึงคนหนึ่งซี่งแดนไกล
ที่หัวใจเริ่มสลายกลายธุลี.
นพ
29ส.ค.56