Re: ทุ่งร้างนางคอย
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 12:03:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ทุ่งร้างนางคอย  (อ่าน 27085 ครั้ง)
สมนึก นพ
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 728
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,994



« เมื่อ: 23 สิงหาคม 2013, 06:30:PM »




มือกำเคียว เกี่ยวรวง ดวงใจเหงา
เคยมีเขา เคียงข้าง มาห่างหาย
ทุ่งนาร้าง นางคอย น้อยใจชาย
 รักแล้วหน่าย คล้ายเบื่อ เหลือระอา

สุริยัน ดั้นฟ้า ล้าแรงอ่อน
นกกลับย้อน นอนรัง ยังดงป่า
ตะวันแดง แสงอ่อน ก่อนจากฟ้า
รุ่งนาภา ลาลับ ยังกลับคืน

รักเหือดแห้ง แล้งน้ำใจ ไม่หวนกลับ
ผ่านเลยลับ ดับหาย กลายเป็นอื่น
เพราะความจน หม่นหมอง ต้องกล่ำกลืน
อย่าไปฝืน ขืนแข่ง แย้งกับใคร

ยืนกำเคียว เหลียวมอง ท้องนภา
ตะวันลา ฟ้าเศร้า เขาอยู่ไหน
ลืมทุ่งนา ป่าเขา ลำเนาไพร
ทิ้งนางให้  ใจลอย คอยรักคืน

ชลนา  ทิชากร



ใช่ทิ้งร้างห่างหายกลอยใจเจ้า
ทุกค่ำเช้าเฝ้าระทมข่มใจฝืน
จำพรากจากเนื้อเย็นมิเป็นอื่น
จะหวนคืนยืนยันมิผันแปร

ด้วยเห็นเคียวเกี่ยวข้าวที่เจ้าถือ
กลัวบาดมือหรือพลาดเป็นบาดแผล
อยู่ห่างไกลใครเล่าเฝ้าดูแล
อนาถแท้แย่นั้นฉันจำทน

หักห้ามใจไกลห่างในครั้งนี้
เป้าหมายมีที่รู้สู้อีกหน
ไปรับจ้างงานสร้างทางรถยนต์
กลับมาหาหน้ามลมิช้านาน

ทนเก็บออมถนอมทรัพย์รับก้อนใหญ่
ซื้อรถไถใช้เกี่ยวเสร็จสำเร็จผ่าน
ข้าคนขับรับเจ้านั่งคอยสั่งงาน
สุขสำราญบ้านเก่าที่เฝ้ารอ.

นพ
23ส.ค.56

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

D, ชลนา ทิชากร, ดาว อาชาไนย, รัตนาวดี, ไพร พนาวัลย์, รพีกาญจน์, ปู่ริน, panthong.kh

ข้อความนี้ มี 8 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 สิงหาคม 2013, 06:50:PM โดย นพ » บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s