กลีบบุปผาหล่นวารีแล้วลี้ลับ
แสงเดือนซับหยาดน้ำฟ้าคราหวนไห้
รัตติกาลแผ่วเพลงบรรเลงไพร
ข้าฯผู้เดียวเปลี่ยวใดใครนำพา
ยกจอกดื่มลืมอดีตยิ่งกรีดลึก
ราดรู้สึกด้วยน้ำจัณฑ์หรือหรรษา
เอื้อนบทกลอนกล่าวย้ำเพื่อร่ำลา
มิอาจฝืนกำหนดฟ้าชะตาตน
ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่ร้างเลิก
ตะวันเบิกหาวห้วงสู่ร่วงหล่น
พสุธาดังสุสานตำนานชน
ลิขิตคนขีดเห็นล้วนเช่นกัน
ตวัดปลายพู่กันสรรอักษร
ก่อนอัมพรลาพรากจากบุหลัน
อรุณแรกแทรกเยือนแล้วเพื่อนจันทร์
ต่างเราหันเหห่างหนทางตัว
แสงเดือนซับหยาดน้ำฟ้าคราหวนไห้
รัตติกาลแผ่วเพลงบรรเลงไพร
ข้าฯผู้เดียวเปลี่ยวใดใครนำพา
ยกจอกดื่มลืมอดีตยิ่งกรีดลึก
ราดรู้สึกด้วยน้ำจัณฑ์หรือหรรษา
เอื้อนบทกลอนกล่าวย้ำเพื่อร่ำลา
มิอาจฝืนกำหนดฟ้าชะตาตน
ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่ร้างเลิก
ตะวันเบิกหาวห้วงสู่ร่วงหล่น
พสุธาดังสุสานตำนานชน
ลิขิตคนขีดเห็นล้วนเช่นกัน
ตวัดปลายพู่กันสรรอักษร
ก่อนอัมพรลาพรากจากบุหลัน
อรุณแรกแทรกเยือนแล้วเพื่อนจันทร์
ต่างเราหันเหห่างหนทางตัว
จะรอถึงพรุ่งนี้..รวีอุ่น
หอมละมุนกรุ่นกำจายทาบไปทั่ว
จะเก็บเกี่ยวแสงทองไม่หมองมัว
รอเพียงชั่วยามจบ..ได้พบกัน
รัตติกาลคลานคืบ..จะสืบหา
ดวงดาราวิบวามจะตามฝัน
ยามหัวใจทอแสง..จะแบ่งปัน
สายสัมพันธ์ผูกพ่วง..เกี่ยวห้วงใจ
จะตวัดปลายพู่กันอย่างหรรษา
บรรเลงวาดประกาศว่าอย่าหม่นไหม้
ระบายรสบทกานท์หวานละไม
เก็บไว้ให้ คนดี..ค่ำนี้นะ
แซมค่ะ