เหม็นกลิ่นดอกหลอกลวง..เจ้าพวงเหม็น
กลิ่นเยือกเย็นจนหนาว..เจ้าชาเฉย
เจ้าโรยกลิ่นโชยกรุ่นอย่างคุ้นเคย
คล้ายจะเย้ยมวลหมู่ ผู้ดมดอม
เหม็นกลิ่นดอกรักเร่เจ้าเหหัน
รักผกผันหลายใจ..ไม่ถนอม
ผลิกิ่งก้านกลิ้งกลอกหนอดอกพยอม
ยามเขาพร้อม เจ้าผละ..ละจากไป
เหม็นกลิ่นดอกคำสร้อย..คนร้อยเล่ห์
พร่ำถ่ายเท..ยากนัก จักฝันใฝ่
เจ้าหว่านเมล็ดผลิกอแตกหน่อใจ
แล้วผลักไสคืนคำ..ลำนำลวง
เหม็นซะจัง น้ำใจ..ใครช่างเหม็น
เปิดประเด็นนุ่มนวล..ชวนห่วงหวง
ขึ้นต้นเป็นมะลิซ้อนฉะอ้อนทรวง
ปลายกลับร่วงโรยรา..เหม็นหน้าจัง !!
แซมน่ะเอง ..
ขลุ่ย..เก่า-เก่า เลานี้ คนดีเหม็น
แม่เนื้อเย็น ไยสิ้น กลิ่นความหลัง
เจ้ามาหัก ให้จินต์ พี่ภินท์พัง
ต้องเซซัง หวั่นไหว ไร้เรี่ยวแรง..
..ก่อนนี้เคย ครวญเพลง บรรเลงหวาน
เสียงขับขาน ฉ่ำมน ทั่วหนแห่ง
ดังกังวาน หว่านซึ้ง ถึงแก้มแดง
ต่างตกแต่ง แต้มรัก สลักใจ..
.. ครั้ง..กาลก่อน คืนแรม "แซม"มักบ่น
อยากยินยล "มนต์รักดอกคำใต้"
แล้วตามด้วย "ในฝัน" บรรเลงไป
"เสียงขลุ่ยเรียกนาง" ไซร้ ให้"แซม"ฟัง..
.. แต่..วันนี้ พี่ท้อ เพียงออเหงา
ครั้นคราเป่า เศร้าอุรา น้ำตาหลั่ง
ถึงคราวเคราะห์ เพราะใจ ไม่ระวัง
อยากกู่ก้อง ร้องดัง-ดัง เจ็บ..จังเลย