ตั้งแต่เกิดกายมาช่างน่าขัน
ตื่นขึ้นพลันไปนานุ่งผ้าผ่อน
ทั้งขี้เหงื่อขี้ไคลไม่ออนซอน
คงก่อนนอนไม่อาบน้ำจึ่งก่ำดวง*
ทั้งอีสุกอีใสทั้งไข้หวัด
พูดไม่ชัดอ้อแอ้พ่อแม่ห่วง
ถูกเด็กใหญ่รังแกร้องแง,งวง*
ยางวงร้อยเป็นพวงเดินพึมพำ
เข้าโรงเรียนชั้น ป.ไม่เปรื่องปราด
ร้องเพลงชาติไม่ทันอยู่ชั้นต่ำ
ถึง ป.สี่ เรียนเก่งร้องเพลงนำ
ครูให้รำ สังข์ทอง ดั่งต้องมนต์
มัธยมลูกศิษย์วัดเริ่มจัดจ้าน
ไม่เกียจคร้านเรียนเต็มอย่างเข้มข้น
เรียนไม่จบขบขาม*เพราะความจน
ต้องดั้นด้นทำงานต้องการเงิน
สงครามลาวรับจ้างไปออกรบ
ได้สมทบเงินทองไม่ขัดเขิน
เสี่ยงระเบิด,ลูกยาว,บนเขา,เนิน
ดวงดีเกินไม่ตายอย่างชายชาญ
อยู่กับบ้านไม่ติดต้องคิดหนัก
เพื่อนมาชักชวนไปไกลถิ่นฐาน
ไปซาอุฯขุดทองมิทันนาน
ต้องจากบ้านพเนจรอย่างจำใจ
มาวันนี้กลับบ้านวิมานแก้ว
นอนกินแห้ว,กินมัน,เขาหมั่นไส้
คงไม่รู้ว่า...เรา นั้นคือใคร?
มาร้องใส่แหว แหว มันแย่จริง จริ๊ง!!
“ไพร พนาวัลย์”
ก่ำดวง = ผิวคล้ำเป็นขี้กลากด้วย
งวง = ขี้มูกไหลเป็นงวงช้าง
เข็ดขาม= เหมือนขบเม็ดมะขามคั่ว