เมฆเทาเหงาหม่นข้างต้นหมอก
ลมหนาวกระซิบบอกให้ห่มผ้า
พายุฝนคลุ้มคลั่งกำลังมา
เยี่ยมเยือนชายคากระชั้นชิด
ใบไม้หล่นร่วง..หมุนควงหมุน
ต้นทุนแห่งรักหักดอกปลิด
แห้งเฉาเหี่ยวโรยทีละนิด
คล้ายชีวิตข้างหน้าต่าง..คว้างเคว้ง
เปียกปอนใต้ขอนไม้..ใครหรือ
กิ้งกือตัวกลมถูกข่มเหง
ด้วยความอนาถาพาวังเวง
ครื้นเครงลมบน..คือฝนโปรย
ต่างกันที่ตรงไหน..ใจขอถาม
ในยามเปล่าเปลี่ยวและเหี่ยวโหย
สายฝนหล่นผสมยามลมโชย
ร่วงโรยโรยร่วง..ใครห่วงฤๅ
แซม
ใจดวงน้อยลอยไปที่ไหนหรือ
อย่าเงียบงันหวั่นไหวให้ใครลือ
เพราะเจ้าคือผู้แกร่งแห่งท้องธาร
นามที่มีวจีล้ำคำที่เพราะ
ยังเสนาะและสดับรับประสาน
ท่วงทำนองท้องฟ้าประภาคาร
คือตำนานแห่งทะเลทุกเวลา
ใครคนหนึ่งพึงรู้อยู่เสมอ
เป็นห่วงเธอทุกครั้งยังถามหา
แม้หน้าที่มีมากฝากใจมา
กระซิบว่าเป็นห่วงทุกห้วงจินต์
ใจเคว้งคว้างโปรดวางไว้ที่ปลายฟ้า
เมื่อฝนมาคราบไคลใจจะสิ้น
เหลือเพียงแววใสวาบอาบชีวิน
เพียงเพชรนิลที่ประดับไว้กับใจ
//////////////////
พงศ์ภัณฑ์
๒๘/๗/๕๖