อันน้ำฝน หล่นพรำ คือน้ำฟ้า
แต่น้ำตา ลาทรวง ที่ร่วงหล่น
คือน้ำหลาก จากใจ ฤทัยคน
ยามหมองหม่น หล่นริน จนสิ้นใจ
ยามสายฝน หล่นพรำ มาฉ่ำพื้น
มิขมขื่น กลืนกล้ำ ทำไฉน
ต่างน้ำตา ถ้าหลั่ง ลงครั้งใด
ดวงฤทัย ไยแปลก คล้ายแหลกลาญ
"มุนีน้อย"
แต่น้ำตา ลาทรวง ที่ร่วงหล่น
คือน้ำหลาก จากใจ ฤทัยคน
ยามหมองหม่น หล่นริน จนสิ้นใจ
ยามสายฝน หล่นพรำ มาฉ่ำพื้น
มิขมขื่น กลืนกล้ำ ทำไฉน
ต่างน้ำตา ถ้าหลั่ง ลงครั้งใด
ดวงฤทัย ไยแปลก คล้ายแหลกลาญ
"มุนีน้อย"
โอ้..สายฝน จากแคว้น แดนสวรรค์
หรือว่า..นั่น คือน้ำตา มาสื่อสาร
ฟ้าร้องไห้ ทนทุกข์ ทรมาน
ใครทำท่าน ท้องฟ้า น้ำตาริน..
..หรือท้องฟ้า เห็นเรา โศกเศร้านัก
เพราะพ่ายรัก คนงาม มาหยามหมิ่น
ช้ำ-ร่ำไห้ ขื่นขม ระทมจินต์
ฟ้ายลยิน สงสาร..ท่านจึงครวญ
.....เขาบอกว่าฟ้าร้องไห้ออกมาให้ฉัน ฟ้าสงสารและคงผิดหวังที่ชักนำให้ฉันพบเธอ น้ำตาที่ไหลจากความตั้งใจไม่ได้พลั้งเผลอ ชาตินี้เข็ดแล้วนะเออ ไม่อยากเจอหน้าเธออีกเลย
emo_48ท่อนสุดท้ายของเพลง"น้ำตาฟ้า"เพลงนี้เพราะมากครับ
หากน้ำฝน คือน้ำหลาก จากสวรรค์
ไยโศกศัลย์ กลั่นฝน หล่นมาหมอง
ฤาสวรรค์ หวั่นไหว ในทำนอง
เผลอกลั่นกรอง น้ำตา ลงมาดิน
หรือสวรรค์ กลั่นแกล้ง คนแล้งรัก
ให้รู้จัก หักห้าม คนหยามหมิ่น
เผื่อฝนซา ฟ้าใส ให้ยลยิน
อย่าถวิล กลิ่นไอ ในรักลวง
"มุนีน้อย"
ไยโศกศัลย์ กลั่นฝน หล่นมาหมอง
ฤาสวรรค์ หวั่นไหว ในทำนอง
เผลอกลั่นกรอง น้ำตา ลงมาดิน
หรือสวรรค์ กลั่นแกล้ง คนแล้งรัก
ให้รู้จัก หักห้าม คนหยามหมิ่น
เผื่อฝนซา ฟ้าใส ให้ยลยิน
อย่าถวิล กลิ่นไอ ในรักลวง
"มุนีน้อย"