ไฟเริ่มมอดดับลงวงศ์อักษร
แต่ละกลอนจึงช้ากว่าแต่เก่า
บางครั้งเขียนเพียรไปได้เพียงเงา
เพราะมันเน่าเกินกว่านำมาโชว์
ไม่คิดแข่งแต่งนับลำดับขั้น
แต่พิถีพิถันมิให้โหล
ถึงแม้จะมิใช่คนใหญ่โต
คนเห็นชื่อร้องโห! นักกลอนดัง
ฉันทลักษณ์หลักใช้ยังไม่ทิ้ง
จึงต้องยิ่งทบทวนหวนกลับหลัง
วรรคต่อวรรคสัมผัสจัดระวัง
ก็มีเผลอบางครั้งให้เห็นกัน
"ผิดเป็นครู" ดูท่าว่าจะแย่
คงได้แต่เป็นครูครูอยู่นั่น
มิได้เป็นอย่างอื่นเพื่อยืนยัน
ว่าตัวฉันเป็นได้ไม่เหมือนเดิม
จะคอยให้ใครทักมักล่าช้า
ขายขี้หน้าแท้แท้แย่พูนเพิ่ม
เมื่อเขียนมากควรได้อะไรเติม
เพื่อสร้างเสริมชำนาญเรื่องกานท์กลอน
ถึงจะช้ากว่าเก่าเต่าเรียกพี่
ก็เพื่อความดูดีไม่มีข่อน***
เรื่องเลิกลาไม่คิดจิตอาวรณ์
หากยามใดไฟร้อนกลอนมาเอง
"กานต์ฑิตา"
๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๖
*** ข่อน ว. ปั่นป่วน, ไม่สบายใจ, โดยมากใช้เป็นคําคู่ เช่น อกใจมันให้
ข่อน ๆ จะนั่งนอนก็ไม่หลับสนิท. (ม. ร่ายยาว ทานกัณฑ์).
(พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒)