เมฆย้อยฝนหยาดปาดใบพฤกษ์
ล้างแล้งร้อนลึกระดมไล่
ปลุกหอมฟื้นหญ้ามาลัยไพร
เขียวห่มร่มใบรื่นเริงรำ
ชูใจชุ่มชื่นขืนแข็งสู้
ฤดูหมุนเวียนเปลี่ยนวันค่ำ
ใจตกยกแต่งแปลงประจำ
คำซ้ำคอยปลอบ...ขอบคุณนัก
(อ้างหรือยัง)
ริมขอบคืนต่อขอบพรุ่งวันใหม่
(ในม่านฝนคลี่สยายห่มใยอรุณ)
๑.
นวลโสมทอใยเย็น ณ แย้มรุ่ง
ใยเมฆสลัวฟายฟุ้งป้ายยวงฟ้า
ใยฝนเค้า, คลี่ห่ม-ปวงดาริกา
เพ็ญนวลโสม, ใกล้อำลา-ใยราตรี
๒.
เจื้อยแจ้วไก่ขานแจ้งบอกวารย่ำ
ระงมงำกะปูดกาเหว่าขานอึงมี่
เขาชวา-กวักทุ่ง, ขานขับมโหรี
นาฬิกาชีวีขานปลุก-เข็มชีวา
๓.
แสงแรกสูรย์แย้มร่ายม่านเช้าใหม่
โสมทอลำ-สุดท้าย, พราวม่านฟ้า
เรื่ออรุณถักม่านพร่างนภา
โสมจำลา, สูรย์ร่าย-คลี่ม่านตรึง
๔.
ลำสูรย์ร่ายต่อโสมแสงริมแย้มรุ่ง
ลำพรึกพรุ่ง, ย้ำแจ้ง-ร่ายมาถึง
ลำสุรีย์-ทอขอบเช้า, ร่ายม่านรึง
ลำหมอกขึงร่ายรุ้งม่านหมอกลำ
๕.
ริมไรรุ่งชื่นละเมียดไหมหมอกเช้า
พร่ำจิบดื่มพราวหมอกละเลียดฉ่ำ
ละไมหมอก, อ้อยสร้อยอิ่ง-ร่ายรำ
แสงแรกระบำ, ล้อหมอกเช้า-ไหวละมุน
๖.
สูรย์รวงรุ่งล้อชื่นรวงโสมเช้า
ย้อยหมอกรวงแหย่เย้ารวงโสมสูรย์
น้ำค้างรวงพร่างพรายล้อรวงอรุณ
รวงหทัยกรุ่น, ชุบรื่นรวงชีวัน
๗.
ริมขอบโสม-ต่อขอบสูรย์, วับพรุ่ง
ริมขอบรุ่ง-ต่อขอบเช้า, แวบผัน
ริมขอบคืน-ต่อขอบวัน, พริบพลัน
ริมขอบฝัน-ต่อขอบจริง, วูบวาย
๘.
ใยสูรย์แจ้งโลมเล้าใยฝนฉ่ำ
โปรยร่ำไร, หมอกม่าน-ใยร่วงสลาย
สลัวแสงแรก, ทะมึนฟ้า-ใยมืดกราย
ใยฝนปรายคลี่สยายปรกม่านอรุณ
๙.
ริมขอบคืนต่อขอบพรุ่งวันใหม่
ในม่านฝนคลี่สยายห่มใยอรุณฯ
***อ่านยากนิดหน่อย เพราะเป็นบทกวีที่เขียนขึ้นเพื่อเป็นโจทย์ข้อสอบสำหรับนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่ง (ปริญญาตรี) แต่ที่นำมาโพสต์นี้ได้แก้ไขปรับปรุงในหลายจุด
สนอง เสาทอง