ทุกที่หมายกายจิตไร้อิตถี
สุขเสรีที่ผ่านสำราญเสมอ
เสียงคลื่นลมชมชวนครวญละเมอ
หลายครั้งเผลอเหม่อลอยคล้อยภวังค์
เช่นปักษินบินร่อนว่อนถลา
ท้องนภาอากาศสมวาดหวัง
ฤดีสุขทุกสิ่งไร้ชิงชัง
ไม่อินังขังขอบเรียงรอบกาย
ดั่งศรทรงวงพักตร์ประจักษ์แจ้ง
ศรสำแดงแทงสถิตทรวงมิดหาย
กระจ่างแจ้งแสงจันทร์พรรณราย
พิศนวลกายสายสวาทเกลียวพาดพัน
โอ้นกเอ๋ยเคยจรไม่งอนง้อ
ค่ำไหนหนอพอใจไม่เหหัน
เหตุไฉนใจต้องหมองจาบัลย์
ให้มีอันพลันหลงทิ้งพงไพร...
-บูรพาฯ-
ทุกที่หมาย กายห่าง ร้างนารี
ในฤดี มีความหลัง แต่ครั้งไหน
ชมทะเล เห่คลื่น ชื่นฉ่ำใจ
หลงพงไพร ไกลห่าง ร้างอนงค์
เบื่ออนงค์ หลงใหล ในฟากฟ้า
เหินเวหา พาเกษม ดุจเหมหงส์
ท่องราตรี มีดาว พราวบรรจง
ใฝ่พะวง หลงดาว สกาวใจ
อิสสระ ละทิ้ง ทุกสิ่งอย่าง
จันทร์กระจ่าง ว้างโปร่ง โล่งฟ้าใส
ในท้องฟ้า ราตรี มิมีใคร
ดุจท่องไป ในแดนสรวง ปวงเทวา
โอ้วิหค นกไพร ในกลางหาว
เจ้าถามข่าว ดาวใด ในเวหา
กระพริบเนตร เหตุใด ใจดารา
กระพริบตา ยั่วใคร ใยจึงซน
ชลนา ทิชากร
ในฤดี มีความหลัง แต่ครั้งไหน
ชมทะเล เห่คลื่น ชื่นฉ่ำใจ
หลงพงไพร ไกลห่าง ร้างอนงค์
เบื่ออนงค์ หลงใหล ในฟากฟ้า
เหินเวหา พาเกษม ดุจเหมหงส์
ท่องราตรี มีดาว พราวบรรจง
ใฝ่พะวง หลงดาว สกาวใจ
อิสสระ ละทิ้ง ทุกสิ่งอย่าง
จันทร์กระจ่าง ว้างโปร่ง โล่งฟ้าใส
ในท้องฟ้า ราตรี มิมีใคร
ดุจท่องไป ในแดนสรวง ปวงเทวา
โอ้วิหค นกไพร ในกลางหาว
เจ้าถามข่าว ดาวใด ในเวหา
กระพริบเนตร เหตุใด ใจดารา
กระพริบตา ยั่วใคร ใยจึงซน
ชลนา ทิชากร