ผืนผ้าใบว่างเปล่าคราวหลังฝน
ช่างหมองหม่นเหม่อมองจ้องแนวไผ่
ฟ้าสีเทายังฉ่ำอยู่รำไร
แต่ห้วงใจแห้งโหยร้างโรยนัก
ยินลำนำวันนี้ฤดีชื่น
ภาพรักคืนทบทวนหวนประจักษ์
เริ่มแตะแต้มแสงทองส่องทายทัก
ช่อดอกรักผลิบานตระการตา
คีตกานท์หวานแว่วแผ่วหวิวหวาม
เธอวาดฝันงดงามท่ามเวหา
อยากจะรู้ถ้อยถวิลจินตนา
ฝากส่งถึง”ประภาฯ” หรือว่าไร ??
โอ้เจ้าดอกโสนริมทุ่ง
ระบายคุ้งงามงดสดใส
พลิ้วลมเสน่หาคราใด
หลงไหลช่อระยับจับจินต์
โอ้..เจ้าดอกรำเพย
อ้างเอ่ยชวนให้ใฝ่ถวิล
หอมกรุ่นเนื้อนวลอวลริน
บรรเลงพิณเถิดหนา..อ ย่ า สิ้ น ม น ต์
~ ประภาคาร ~
ถ้อยจำนรรจ์ถึงกันอย่าหวั่นไหว
ความลึกซึ้งพึงรู้อยู่ที่ใจ
คำถามใดใคร่ตอบมอบคนดี
หากเจ้าถามก็จะตอบว่ามอบรัก
หากเจ้าทักก็จะเอื้อนไม่เบือนหนี
หากเจ้าคอยก็จะคล้อยตามวจี
พูดอีกทีบอกกี่ครั้งยังคงเดิม
เรื่องของใจใครจะตามห้ามให้หยุด
คงยากสุดจะหยุดฝันวันที่เริ่ม
รักยิ่งใหญ่หากมีใจไปต่อเติม
มีแต่เพิ่มคุณค่าทุกนาที
อย่าสงสัยในนิยามของความรัก
เพียงรู้จักค่าควรให้ถ้วนถี่
ความรักช่วยสร้างสรรวันที่มี
จะวันนี้หรือวันไหนไม่สำคัญ
---**---
พงศ์ภัณฑ์
๑๙/๖/๕๖