เงาขอบฟ้าทาบพ้นบนผืนน้ำ
เมฆลอยต่ำอึมครึมดูครึ้มฝน
จุดเล็กเล็กปลายหาด..อาจใช่ คน
ไยดูหม่นเฉยนิ่ง..จริงหรือลวง
ดั่งภาพวาดขาดสีที่เก่าเก็บ
รู้สึกคล้ายใจที่เจ็บไร้คนห่วง
คลื่นกระแซะซัดหายไม่ถามทวง
เวลาล่วงภาพเลือน..เหมือนฝันพราง
ยอดคลื่นม้วน ทวนทบ..กลบทรายเกลื่อน
จิตฟั่นเฟือน หรือโลกจริง วิ่งไกลห่าง
ปลายพู่กันสะบัดไหวไร้แนวทาง
เหลือแต่ความอ้างว้าง..กลางเวิ้งฟ้า
เริ่มลงเส้นหัวใจไว้เป็นกรอบ
หวังแตะแต้มแซมขอบเสน่หา
คนวาดฝันซึมซาบภาพมายา
ณ ปลายฟ้า วันนี้..ไม่มีใคร
• • •
~ ประภาคาร ~
มันไม่จริง สิ่งที่ คนดีคิด
เจ้าคิดผิด พลาดยิ่ง กว่าสิ่งไหน
ที่เจ้าเอ่ย วจี ไม่มีใคร
คิดเช่นนั้น ทำไม เหตุใดกัน
มิแนบเนา เช้าเย็น มิเห็นหน้า
แต่อุรา โอบกอด พรอดดวงขวัญ
คอยปรับทุกข์ สุขส่ง ตรงถึงกัน
พร่ำรำพัน วันคืน ให้ชื่นทรวง
ยังมีฉัน มิคลาย ณ ปลายฟ้า
แม้กานดา เจ็บช้ำ น้ำตาร่วง
มิตรไมตรี ตราตรึง ซึ่งแดดวง
เชิญตักตวง เติมต่อ ให้พอเพียง
ณ ปลายฟ้า วันนี้ ยังมีฉัน
แม้ไกลกัน แต่ใจ ใคร่ยินเสียง
กำลังใจ ได้ส่ง บรรจงเคียง
แนบเพนียง ณ ปลายฟ้า..ประภาคาร
เจ้าคิดผิด พลาดยิ่ง กว่าสิ่งไหน
ที่เจ้าเอ่ย วจี ไม่มีใคร
คิดเช่นนั้น ทำไม เหตุใดกัน
มิแนบเนา เช้าเย็น มิเห็นหน้า
แต่อุรา โอบกอด พรอดดวงขวัญ
คอยปรับทุกข์ สุขส่ง ตรงถึงกัน
พร่ำรำพัน วันคืน ให้ชื่นทรวง
ยังมีฉัน มิคลาย ณ ปลายฟ้า
แม้กานดา เจ็บช้ำ น้ำตาร่วง
มิตรไมตรี ตราตรึง ซึ่งแดดวง
เชิญตักตวง เติมต่อ ให้พอเพียง
ณ ปลายฟ้า วันนี้ ยังมีฉัน
แม้ไกลกัน แต่ใจ ใคร่ยินเสียง
กำลังใจ ได้ส่ง บรรจงเคียง
แนบเพนียง ณ ปลายฟ้า..ประภาคาร