มหาสงครามพิทักษ์โลก
มหาสงครามพิทักษ์โลกก็คือ ณ กาลหนึ่งในอนาคตภายหน้า เมื่อโลกย่ำแย่ลงเพราะมนุษย์บริโภคทรัพยากรจนเกินตัว
ก่อให้เกิดมลภาวะเป็นพิษจนแม้แต่อากาศที่จะหายใจก็ต้องผ่านเครื่องฟอก ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นพิษไปหมด
การรณรงค์ทุกอย่างไม่มีผล เพราะมนุษย์คิดถึงแต่ความสุขสบาย ไม่ยอมหยุดใช้เทคโนโลยีที่ทำลายโลก
ผืนโลก ผืนดิน ผืนน้ำ ท้องฟ้า และอากาศที่เคยสดใสได้ถูกทำลายจนหมดไปแล้ว สุขภาพของมนุษย์ทุกคนย่ำแย่ลง
สัตว์และพืชไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้นอกจากอยู่ในห้องทดลองและห้องที่สร้างไว้สำหรับเลี้ยงสัตว์และพืชเพื่อเป็นอาหาร
ในกาลนั้น จะเกิดมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่เล็งเห็นความสำคัญและต้องการคืนชีวิตให้กับธรรมชาติในโลกนี้
ได้เกิดรวมตัวแล้วตั้งเป็นกลุ่มขึ้นและเผยแพร่ความคิดเห็นนี้ไปยังมนุษย์อื่นๆจนในที่สุดมนุษย์ก็ได้แบ่งเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน
คือฝ่ายที่เห็นแก่ความสะดวกสบายและบริโภคเทคโนโลยีทำลายโลกไปเรื่อยๆ กับฝ่ายที่ต้องการคืนชีวิตให้กับธรรมชาติและโลก
ในขั้นแรกได้เปิดโต๊ะให้เจรจากันก่อน โดยยื่นคำขาดให้หยุดใช้เทคโนโลยีและการบริโภคทรัพยากรธะรรมชาติจนเกินตัว
แต่มนุษย์ฝ่ายที่รักความสะดวกสบายไม่รับฟัง และไม่ยอมในเงื่อนไขข้อเรียกร้องใดๆทั้งนั้น
ในที่สุด เมื่อการเจรจาไม่ประสบความสำเร็จ ทุกอย่างยังคงดำเนินไปแบบเดิม โลกใกล้ถึงความพินาศ
ในที่สุดฝ่ายมนุษย์ที่ต้องการคืนชีวิตให้กับธรรมชาติและโลกคิดว่า เมื่อเจรจาดีๆแล้วยังไม่สำเร็จ การที่จะคืนชีวิตให้กับ
ธรรมชาติและโลกได้รวดเร็วที่สุดก็มีแต่ต้องทำลายมนุษย์ที่หลงเพลิดกับเทคโนโลยีให้หมดไปจากโลกเท่านั้น
ดังนั้นทุกคนจึงเริ่มรวบรวมอาวุธเพื่อประกาศสงครามกับมนุษย์ฝ่ายที่ชอบเทคโนโลยีและทำลายธรรมชาติ
และแล้วมหาสงครามพิทักษ์โลกก็ได้เปิดฉากขึ้น โดยมีมนุษย์ที่รักและต้องการคืนชีวิตให้กับธรรมชาติและโลก
เป็นผู้เริ่ม และตอบโต้ด้วยฝ่ายมนุษย์ที่หลงใหลในเทคโนโลยีและความสะดวกสบายแต่ทำลายธรรมชาติ เพื่อเป็นการป้องกันตนเอง
สงครามครั้งนี้ใครจะเป็นผู้ชนะ ยังไม่มีผู้ใดตัดสินได้นอกจากรอดูเหตุการณ์ต่อไป......
ผู้ประพันธ์ Orion264(มือขวา)
๗ มิถุนายน ๒๕๕๖
(อ้างถึง)
มือขวานี่ วรยุทธ์ล้ำเลิศ ยากคาดหมายจริงๆ คนติดตามอ่านจับทางไม่ถูก ได้แต่นับถือท่านแล้ว ขอคารวะท่านสักจอก
"วรยุทธ์มาเหนือเมฆา เหยียบหิมะไร้ร่องรอย"
ได้แต่...
นับถือ นับถือ ท่านแล้ว
555555555ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ข้าน้อยจอมยุทธ์น้ำแข็งละลาย
(มัวแต่เลี้ยงยุง และฟังคนอื่นพูดเพลินลืมยกเหล้าจิบ)
สนอง เสาทอง
7 มิถุนา 56