เบื่อชีวิต คิดทำไม ให้หมองหม่น
ใยต้องทน วนในทุกข์ ไร้สุขสันต์
อันชีวิต คิดไปต่อ ก็เหมือนกัน
สุขทุกข์นั้น ปนกันไป ใครก็เป็น
วันนี้ทุกข์ สุขวันหน้า พาใจชื่น
มีขมขื่น ฝืนดวงใจ ให้ยากเข็ญ
ย่อมมีวัน อันสุขใจ ไม่ยากเย็น
ชีวิตเป็น เช่นเกลียวคลื่น มีขึ้นลง
จะอาทร ร้อนฤทัย ไปใยเล่า
อันคนเรา เศร้าสุขตรม สมประสงค์
ล้วนคู่กัน นั้นของแน่ แม่โฉมยงค์
ใจเย็นลง ปลงเสียบ้าง ช่างประไร
-------------------------------
ใยต้องทน วนในทุกข์ ไร้สุขสันต์
อันชีวิต คิดไปต่อ ก็เหมือนกัน
สุขทุกข์นั้น ปนกันไป ใครก็เป็น
วันนี้ทุกข์ สุขวันหน้า พาใจชื่น
มีขมขื่น ฝืนดวงใจ ให้ยากเข็ญ
ย่อมมีวัน อันสุขใจ ไม่ยากเย็น
ชีวิตเป็น เช่นเกลียวคลื่น มีขึ้นลง
จะอาทร ร้อนฤทัย ไปใยเล่า
อันคนเรา เศร้าสุขตรม สมประสงค์
ล้วนคู่กัน นั้นของแน่ แม่โฉมยงค์
ใจเย็นลง ปลงเสียบ้าง ช่างประไร
-------------------------------
อาทิตา
28 พ.ค. 56
28 พ.ค. 56
เบื่อชีวิต คิดไป หัวใจช้ำ
เกิดเพราะกรรม นำสร้าง แต่ปางไหน
อวิชชา พากำเนิด เตลิดไป
มีตัณหา พาให้ ใจมันอยาก
อุปาทาน ขานรับ จับกุมไว้
พาหัวใจ ให้เตลิด เกิดยุ่งยาก
ไปก่อกรรม ทำเข็ญ เป็นวิบาก
เมื่อจบฉาก ชีวิต ก็ปิดลง
หากวิญญาณ ไม่สิ้น กลิ่นตัณหา
อวิชชา ก่อละโมบ โลภโกรธหลง
ชีวิตใหม่ ได้กำเนิด เกิดเจาะจง
ให้ตกตรง อบาย เบื่อหน่ายจัง
ชลนา ทิชากร
เกิดเพราะกรรม นำสร้าง แต่ปางไหน
อวิชชา พากำเนิด เตลิดไป
มีตัณหา พาให้ ใจมันอยาก
อุปาทาน ขานรับ จับกุมไว้
พาหัวใจ ให้เตลิด เกิดยุ่งยาก
ไปก่อกรรม ทำเข็ญ เป็นวิบาก
เมื่อจบฉาก ชีวิต ก็ปิดลง
หากวิญญาณ ไม่สิ้น กลิ่นตัณหา
อวิชชา ก่อละโมบ โลภโกรธหลง
ชีวิตใหม่ ได้กำเนิด เกิดเจาะจง
ให้ตกตรง อบาย เบื่อหน่ายจัง
ชลนา ทิชากร