ดอกติ้วบาน
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 01:56:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ดอกติ้วบาน  (อ่าน 2821 ครั้ง)
อริญชย์
Special Class LV6
นักกลอนเอกแห่งวังหลวง

******

คะแนนกลอนของผู้นี้ 1154
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,568


ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว


« เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2013, 07:11:PM »


ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

           ดอกติ้วบาน

พราวดอกติ้วพลิ้วลอยย้อยหยาดฟ้า
ท้องทุ่งนาป่าเขาเฝ้าหลงใหล
เย็นสายลมพรมชื่นผืนพงไพร
หอมกลิ่นไอใบหญ้าคราฝนจาง

ยามติ้วแย้มแต้มต้นน่ายลยิ่ง
ชูเพริศพริ้งกิ่งช่อลออพร่าง
กิ้งก่าน้อยพลอยไต่ก้านใบกาง
ซ่อนซบร่างวางท่าหลับตาพริ้ม

ยอดเขียวอ่อนเลิศล้ำด้านคุณค่า
เพียงเด็ดมาขึ้นจานพอเอิบอิ่ม
รสเปรี้ยวฝาดกลมกล่อมชวนให้ชิม
เป็นผักจิ้มแกล้มป่นมาเนินนาน!ฯ

                                อริญชย์
                            ๒๒/๕/๒๕๕๖


ขอบคุณข่าวที่มา    
                 
ผักติ้ว........ต้านมะเร็งตับ
 
     ในงานวิจัยของนิสิตโครงการปริญญาเอก กาญจนาภิเษก (คปก.) คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่า สารสกัดจาก “ผักติ้ว” สามารถนำไปใช้ในการยับยั้งกลิ่นหืนในอาหารได้ โดยเอายอดอ่อนของ “ผักติ้ว” ที่คนอีสานนิยมรับประทานเป็นผักเคียงกับลาบ ก้อย และแหนมเนืองเวียดนาม ไปเข้ากระบวนการสกัดผสมกับ “เอทานอล” และขั้นตอนอีกหลายขั้นตอนจะได้สารจาก “ผักติ้ว” ชื่อ “คอลโรจินิกแอซิก” นำไปใช้เป็นสารสกัดธรรมชาติป้องกันกลิ่นหืนของอาหารดีมาก

     นอกจากนั้น การทดลองสารที่พบจาก “ผักติ้ว” ยังมีฤทธิ์ต้านมะเร็งตับได้ และ ไม่ทำลายเซลล์ปกติด้วย แต่งานวิจัยยังไม่เสร็จสิ้นพอที่จะนำเอาไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์ จึงสรุปเพียงว่า “ผักติ้ว” เมื่อรับประทานแล้วจะมีสารในการยับยั้ง “เซลล์มะเร็งตับ” ได้ ซึ่งในการทดลองยังได้นำเอาใบของ “ผักติ้ว” ไปเลี้ยงกับเซลล์มะเร็งเม็ดเลือด เซลล์ไต และ เซลล์มะเร็งเต้านม เชื่อว่าอนาคตอันใกล้ ถ้าผลการทดลองออกมาสามารถใช้รักษาโรคที่ทดลองได้ จะเป็นผลดีกับผู้ป่วยอย่างมหาศาล

ผักติ้ว หรือ ติ้ว CRATOXYLUM FORMOSUM-PRUNIFLORUM อยู่ในวงศ์ CLUSIACEAE เป็นไม้ยืนต้น สูง 8-15 เมตร ลำต้นมียางสีเหลือง ใบออกตรงกันข้าม รูปรีแกมรูปไข่กลับ ปลายแหลม โคนเกือบมน ผิวใบมีขนทั้ง 2 ด้าน จึงถูกเรียกอีกชื่อว่า “ติ้วขน” ยอดอ่อนเป็นสีแดง รสฝาดปนเปรี้ยว เมื่อใบแก่เป็นสีเขียวสด

ดอก ออกเป็นช่อกระจุกตามกิ่งก้านเหนือรอยแผลใบ ดอก เป็นสีชมพูอ่อน “ผล” ทรงกลม เมื่อผลแก่ แตกอ้า ภายในมีเมล็ดรูปไข่ หรือรูปกระสวย พบขึ้นตามป่าธรรมชาติทั่วทุกภาคของประเทศไทย มีชื่อเรียกอีกเยอะ คือ ดาว, ติ้วแดง, ติ้ว ยาง, ติ้วเลือด, ติ้วเหลือง และ แต้วหิน

มีสรรพคุณเฉพาะทางสมุนไพรคือ ราก ผสมกับหัวแห้วหมู และรากปลาไหลเผือกต้มน้ำดื่มวันละ 3 ครั้ง ก่อนหรือหลังอาหาร ก็ได้ เป็นยาขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะขัด ประโยชน์ทางอาหาร ยอดอ่อน (มีขายตามแผงจำหน่ายพืชผักพื้นบ้านทั่วไป) นิยมรับประทานเป็นผักเคียงกับ ลาบ ก้อย น้ำตก แหนมเนืองเวียดนาม ตามที่กล่าว ข้างต้น ส่วนภาคใต้รับประทานกับขนมจีนใต้รสชาติ อร่อยมาก


ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก
http://www.kroobannok.com/blog/28832


 อายจัง


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

รัตนาวดี, กังวาน, สะเลเต, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, khuadkao

ข้อความนี้ มี 6 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

เกื้อกูลต่อมวลมิตร ลิขิตเพื่อสังคม
เพาะบ่มเพื่อพงไพร ก้าวไปเคียงผองชน

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s