อ่านดูจากกระทู้แรกแล้ว เข้าใจว่าเป็นคำพูดชักจูงโน้มน้าวจิตให้เกิดความเชื่อมั่นในตนเอง
และออกคำสั่งกับจิตสำนึกของตนเองให้ปฏิบัติตามที่ต้องการครับ ศาสตร์หรือวิชาแขนงนี้มีสามระดับคือ
-การสะกดจิต ซึ่งต้องทำโดยนักสะกดจิต ทำการสะกดจิตให้หลับจนอยู่ในสะภาวะจิตใต้สำนึกพร้อมรับคำสั่งเสียก่อน
จากนั้นจึงป้อนคำสั่งที่ต้องการลงไป เช่นให้เลิกเหล้า เลิกการพนัน ให้ขยัน ให้เลิกกลัวบางสิ่งบางอย่าง
แต่ต้องทำโดยนักสะกดจิตหรือจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
-การสะกดจิตตนเอง โดยบันทึกประโยคคำพูดที่ต้องการลงไปในเทป แล้วเปิดให้ฟังเสียงในขณะใกล้หลับจนกว่าจะหลับ
วิธีนี้ง่ายกว่าวิธีแรกตรงที่ไม่ต้องมีการสะกดจิตให้หลับเสียก่อน แค่อาศัยการหลับตามธรรมชาติมาเป็นตัวช่วย
วิธีนี้นอกจากสะกดตนเองแล้ว พ่อแม่ยังอาจใช้พูดกับลูกขณะหลับ เพื่อให้เลิกเกเร ให้ตั้งใจเรียนหนังสือฯลฯ
-การพูดชักจูงจิตใจตนเองเพื่อปลูกพลังศรัทธา วิธีนี้ ไม่ต้องสะกดจิต ไม่ต้องอัดเทปเปิดให้ฟังขณะหลับ
แต่เป็นการพูดกับตนเองย้ำๆแบบเดิมทุกๆวันขณะตื่นเลย การใช้วิธีนี้ เมื่อพูดกับตนเองทุกๆวัน ย่อมก่อให้เกิดความเชื่อ
และการเปลี่ยนแปลงไปตามที่พูดชักจูงได้
ใช่แล้วครับ ที่ผมพูดมาคือการสะกดจิตครับ
แต่ไม่ได้เข้าภวังค์ที่ลึกมาก เป็นภวังค์อ่อนๆ สงบสบาย ที่ใครก็สามารถทำได้
เว้นตอนที่พูดข้างหูตอนที่เขาหลับนะครับ อันนั้นเป็นภวังค์ลึกหน่อย (คลื่นสมองสงบมากกว่าปรกติ)
เราสะกดจิตตัวเองเสมอครับ(และถูกสะกดจิตอยู่เสมอๆอีกด้วย) เราคาดหวังกับตัวเราเองเสมอทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว
เราเป็นในสิ่งที่เราบอกและฝึกตัวเองให้เป็นครับ
วิธีการหลักๆก็คือ หนึ่ง จิตใต้สำนึกเรามีแนวโน้มจะยอมรับสิ่งที่เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรว่าเป็นจริงเสมอ
สองคือ การบอกตัวเองซ้ำๆ จะทำให้จิตใต้สำนึกเก็บเอาสิ่งนั้นไปสร้างตัวตนของเราครับ
สามความสงบ ทั้งจากดนตรี ทั้งในช่วงเวลาที่เหมาะสม ทำให้จิตใจเรามีแนวโน้มจะพัฒนาไปในทางด้านดีได้ง่ายครับ
ประมาณนี้ล่ะครับ ส่วนที่เหลือ ก็คงเป็นความตั้งใจที่จะพัฒนาตนเองของบุคคลนั้นๆครับ
ลองดูครับ คาดหวัง และฝึกตัวเองให้เป็นในสิ่งที่ดีงาม