ยามเยือนยลหม่นไหม้ มองดาว
เมฆไม่เป็นสีขาว แจ่มฟ้า
หมองมัวหมดเวหาว มืดสนิท
อุระสิแตกอ้า ยับยั้งไม่ทัน
ผันผายพงษ์เผ่าพ้อง ของตน
จิตแหว่งแหนงหน่ายจน ทุกข์ท้อ
แรมราหน้าสับสน ในจิต
คิดแต่เป็นลิ่วล้อ จบสิ้นกันที
กรรมดีหมั่นฝึกไว้ เป็นทุน
เกิดแก่แค่บาปบุญ ที่กั้น
นักเลงเร่งแข่งคุณ คนอื่น
ข่มเหงเก่งเข้าขั้น อยู่ได้ไม่นาน
พาลชนทนแช่งช้ำ ร่ำไป
ทั้งถิ่นด้าวแดนใด ไม่เกื้อ
คนชังชั่งปะไร หลีกหลบ
ขืนไป่คบเจ็บเนื้อ ว่าไว้เรื่องจริง
พันทอง
๖/๐๕/๕๖