คืนฟ้าหนาวดาวหม่น..คนเงียบหงอย
รักหลุดลอยกลับกลายเมื่อปลายฝน
เคยเคล้าคลออิงแอบแนบกมล
พี่พบคนใหม่กว่าจึงลาลับ
มาบัดนี้ไยเล่าจึงเฝ้าถาม
ทวงข้อความคล้ายชวน..ให้หวนกลับ
น้องบอบช้ำเจ็บแผลแดย่อยยับ
พิษซึมซับแทรกมานจนรานร้าง
ดอกราตรีเคยแซมข้างแก้มหอม
มาตรมตรอมเพราะใจใครคิดห่าง
เก็บซากรักเงาดำซ่อนอำพราง
ใจอ้างว้าง..หลั่งน้ำตา ท่ามราตรี
แซมค่ะ
วันนี้ แซมได้มีโอกาสมาต่อกลอนท่านพี่ชลนา ซะที..
อยากต่อมานานแล้วค่ะ.. แต่แซมงานยุ่งเหลือเกิน..
ทั้งกลอนเพื่อนๆ ท่านอื่นๆ.. อ่านแล้ว แซมก็อยากร่วมสนุกด้วย..
ติดที่ว่า กลับจากที่ทำงาน สมองล้า..คิดกลอนไม่ออก..กระอึกกระอักอยู่ประจำ..
ต่อกลอนของกระทู้แซมเองเสร็จ ก็หมดสภาพ..
ผิดพลาดประการใด แซมขออภัยมาด้วยนะคะ..
คืนฟ้าหนาว ร้าวจิต ให้คิดถึง
รักครั้งหนึ่ง ซึ้งมาก เธอจากหนี้
ด้วยตัวเรา เขลานัก ไม่รักดี
คู่ชีวี มีอยู่ ไม่รู้ใจ
มารู้ตัว มัวเพลิน เธอเหินห่าง
แสนอ้างว้าง ร้างรา น้ำตาไหล
คิดถึงเธอ เพ้อพร่ำ ทุกค่ำไป
มองฟ้าใส ใจห่วงหา เจ้าราตรี
กลิ่นราตรี ที่ในสวน อบอวลหอม
กลิ่นพะยอม หอมนัก เป็นสักขี
เสียบผมแซม แถมทัก น่ารักดี
ฟ้าคืนนี้ พี่หมองตรม ระทมใจ
ชลนา ทิชากร
ขอได้รับความขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง
ด้วยจริงใจที่เขามาทักทาย เช่นเดียวกัน
ผิดพลาดประการใด ในบทกลอนต้องขออภัย
และโปรดแนะนำด้วย ขอบคุณหลายหลาย
รักครั้งหนึ่ง ซึ้งมาก เธอจากหนี้
ด้วยตัวเรา เขลานัก ไม่รักดี
คู่ชีวี มีอยู่ ไม่รู้ใจ
มารู้ตัว มัวเพลิน เธอเหินห่าง
แสนอ้างว้าง ร้างรา น้ำตาไหล
คิดถึงเธอ เพ้อพร่ำ ทุกค่ำไป
มองฟ้าใส ใจห่วงหา เจ้าราตรี
กลิ่นราตรี ที่ในสวน อบอวลหอม
กลิ่นพะยอม หอมนัก เป็นสักขี
เสียบผมแซม แถมทัก น่ารักดี
ฟ้าคืนนี้ พี่หมองตรม ระทมใจ
ชลนา ทิชากร
ขอได้รับความขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง
ด้วยจริงใจที่เขามาทักทาย เช่นเดียวกัน
ผิดพลาดประการใด ในบทกลอนต้องขออภัย
และโปรดแนะนำด้วย ขอบคุณหลายหลาย