คาถานั้น ศักดิ์สิทธิ สัมฤทธิ์ผล
จึงช่วยดล เรียมมิพับ นอนหลับไหล
เห็นนงนุช สุดคว้าง ว้างหทัย
จึงคระไล มาต่อ ทอวจี
รักมิรัก มิแจ้งจิต คิดมิออก
เล่ห์ลวงหลอก มิใช่แน่ แม่โฉมศรี
ก็เฉกจันทร์ เต็มเพ็ญ เป็นบางที
แต่มิหนี ลาร้าง ห่างโลกา
ก็เฉกนั้น ฉันใด ใจบุรุษ
เดี๋ยวก็ผุด เดี๋ยวก็ไป ให้โหยหา
ถึงกำหนด ก็คืนเคล้า เยาวพา
เฉกจันทรา ที่เอ่ย เผยข้างบน
แม้นนางดัด ก็อย่างดี สุริเยศ
มีพิเศษ ที่เขยื้อน เยือนเวหน
บ่อยกว่าเพ็ญ แขก่อง ส่องสกล
นิรมล รับได้เปล่า ช่วยกล่าวคำ
ศรีเปรื่อง
๔ พ.ค. ๒๕๕๖
จึงช่วยดล เรียมมิพับ นอนหลับไหล
เห็นนงนุช สุดคว้าง ว้างหทัย
จึงคระไล มาต่อ ทอวจี
รักมิรัก มิแจ้งจิต คิดมิออก
เล่ห์ลวงหลอก มิใช่แน่ แม่โฉมศรี
ก็เฉกจันทร์ เต็มเพ็ญ เป็นบางที
แต่มิหนี ลาร้าง ห่างโลกา
ก็เฉกนั้น ฉันใด ใจบุรุษ
เดี๋ยวก็ผุด เดี๋ยวก็ไป ให้โหยหา
ถึงกำหนด ก็คืนเคล้า เยาวพา
เฉกจันทรา ที่เอ่ย เผยข้างบน
แม้นนางดัด ก็อย่างดี สุริเยศ
มีพิเศษ ที่เขยื้อน เยือนเวหน
บ่อยกว่าเพ็ญ แขก่อง ส่องสกล
นิรมล รับได้เปล่า ช่วยกล่าวคำ
ศรีเปรื่อง
๔ พ.ค. ๒๕๕๖
คาถานั้น จันทร์เป่า เคล้าเวทย์มนต์
ให้ไปดล กมลพี่ วจีพร่ำ
เห็นใจน้อง หมองศรี ฤดีช้ำ
จึงเอ่ยคำ ย้ำปลอบ ตอบวจี
อย่าลังเล เหหัน หวั่นวิตก
เล่นตลก อกน้อง ต้องหมองศรี
ไปเปรียบจันทร์ ดั้นฟ้า ยามราตี
เดี๋ยวก็มี บางทีดับ ลับโลกา
ไปเปรียบจันทร์ ดั้นฟ้า ว่าผลุบโผล่
น่าโมโห โกหก พกมุสา
รักลวงหลอก ยอกย้อน อ้อนวาจา
เปรียบจันทรา ฟ้าใส ในเบื้องบน
ให้น้องเปรียบ เทียบสรวง ดวงอาทิตย์
พรหมลิขิต สถิตฟ้า เวหาหน
ใช้ศัพท์แสง แผลงนัก รักวกวน
นิรมล ทนฟัง ยังบาดใจ
ชลนา ทิชากร
ให้ไปดล กมลพี่ วจีพร่ำ
เห็นใจน้อง หมองศรี ฤดีช้ำ
จึงเอ่ยคำ ย้ำปลอบ ตอบวจี
อย่าลังเล เหหัน หวั่นวิตก
เล่นตลก อกน้อง ต้องหมองศรี
ไปเปรียบจันทร์ ดั้นฟ้า ยามราตี
เดี๋ยวก็มี บางทีดับ ลับโลกา
ไปเปรียบจันทร์ ดั้นฟ้า ว่าผลุบโผล่
น่าโมโห โกหก พกมุสา
รักลวงหลอก ยอกย้อน อ้อนวาจา
เปรียบจันทรา ฟ้าใส ในเบื้องบน
ให้น้องเปรียบ เทียบสรวง ดวงอาทิตย์
พรหมลิขิต สถิตฟ้า เวหาหน
ใช้ศัพท์แสง แผลงนัก รักวกวน
นิรมล ทนฟัง ยังบาดใจ
ชลนา ทิชากร