ริมฝั่งชล บนบาน พานบอกกล่าว
ฝากส่งข่าว สวยมั่น วันนี้หม่น
อากาศร้อน นอนรอ แสนท้อทน
ทั้งลมฝน บนฟ้า ช่างน่ากลัว
ทะเลเรียบ เงียบงัน ถลันลุก
ใจเต้นตุก ซุกใส่ หวาดไปทั่ว
ภาวนา เทวัน ข้าพรั่นกลัว
อย่าเย้ายั่ว หยอกแหย่ แดภินท์พัง
นั่งยลแสง ตะวัน ลดหลั่นเขา
เมฆสีเทา เคล้าเคลื่อน เตือนความหลัง
ว่ารักล่ม จมจ่อม ยอมชิงชัง
ในภวังค์ ยั้งคิด จิตระกำ
สายน้ำไหล ไปตาม สายธารใหญ่
คดเคี้ยวไป สงลู่ สู่เบื้องต่ำ
เป็นเรื่องแท้ เห็นได้ ใคร่จดจำ
สัจธรรม กล่าวอ้าง ต่างเป็นจริง
พันทอง
๒๗/๐๔/๕๖
ริมฝั่งชล ยลสายน้ำ ฉ่ำชื่นนัก
นึกถึงรัก หนักหนา คราถูกทิ้ง
สายนที ลี่ไหล ใจประวิง
รักไม่จริง ยิ่งเศร้า เคล้าน้ำตา
สายนที ลี่ไหล ใจหวนคิด
ถึงอดีต จิตครวญ ไห้หวนหา
เย็นพระพาย สายลม พรมพัดมา
นึกเห็นหน้า พาเศร้า เหงาชีวี
มองนที ลี่ไหล ใครหลอกหลอน
ตะวันรอน อ่อนแรง แสงริบหรี่
ฝูงวิหค นกกา พาหลีกลี้
กลับถิ่นที่ พิงพัก พำนักเนา
ริมฝังชล หม่นหมอง เหม่อมองหา
ในอุรา ช้ำตรม ระทมเศร้า
ริมฝั่งชล ยามนี้ มีเพียงเรา
กับความเหงา ความฝัน ฉันยังรอ
ชลนา ทิชากร
นึกถึงรัก หนักหนา คราถูกทิ้ง
สายนที ลี่ไหล ใจประวิง
รักไม่จริง ยิ่งเศร้า เคล้าน้ำตา
สายนที ลี่ไหล ใจหวนคิด
ถึงอดีต จิตครวญ ไห้หวนหา
เย็นพระพาย สายลม พรมพัดมา
นึกเห็นหน้า พาเศร้า เหงาชีวี
มองนที ลี่ไหล ใครหลอกหลอน
ตะวันรอน อ่อนแรง แสงริบหรี่
ฝูงวิหค นกกา พาหลีกลี้
กลับถิ่นที่ พิงพัก พำนักเนา
ริมฝังชล หม่นหมอง เหม่อมองหา
ในอุรา ช้ำตรม ระทมเศร้า
ริมฝั่งชล ยามนี้ มีเพียงเรา
กับความเหงา ความฝัน ฉันยังรอ
ชลนา ทิชากร