Re: กางเขนดง
« ตอบ #2 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2012, 11:15:pm »
เจ้าเจื้อยแจ้วแว่วหวานกังวานใส
คอยขับขานพงไพรให้หลับต่อ
ลมเอื่อยเอื่อยเฉื่อยฉิวปลิวเคลียคลอ
ทิวไผ่ล้อเล่นลมสมดั่งใจ
หากไม่มีกางเขนดงเราคงเศร้า
ไม่มีเสียงคลอเคล้าที่เราใฝ่
วอนเด็กทุ่งอย่ามุ่งพรากเจ้าจากไป
ให้เจ้าอยู่กล่อมพงไพรไปแสนนาน
uddyart
คอยขับขานพงไพรให้หลับต่อ
ลมเอื่อยเอื่อยเฉื่อยฉิวปลิวเคลียคลอ
ทิวไผ่ล้อเล่นลมสมดั่งใจ
หากไม่มีกางเขนดงเราคงเศร้า
ไม่มีเสียงคลอเคล้าที่เราใฝ่
วอนเด็กทุ่งอย่ามุ่งพรากเจ้าจากไป
ให้เจ้าอยู่กล่อมพงไพรไปแสนนาน
uddyart
กางเขนดง ส่งเสียงร้อง ก้องแนวป่า
แสนเหวว้า อนิจจา น่าสงสาร
เกาะกิ่งไผ่ ไร้คู่ ดูลนลาน
เฝ้าขับขาน ประสานเพลง วังเวงใจ
ยินเสียงเพลง บรรเลงถ้อย ร้อยคำขาน
ส่งเสียงหวาน ประสานลม พรมพลิ้วไหว
ฟังเสนาะเพราะกังวาน ผ่านแนวไพร
ให้หลงใหล ใฝ่ฝันเจ้า เฝ้ากงทอง
จับเจ้ามา ขังกง ลงดานเฝ้า
ฟังเสียงเจ้า เฝ้ากง สงเสียงร้อง
ยินสำเนียง เสียงเจ้า เฝ้าไตรตอง
เป็นทำนอง ร้องถามว่า ข้าผิดใด
ชลนา ทิชากร
แสนเหวว้า อนิจจา น่าสงสาร
เกาะกิ่งไผ่ ไร้คู่ ดูลนลาน
เฝ้าขับขาน ประสานเพลง วังเวงใจ
ยินเสียงเพลง บรรเลงถ้อย ร้อยคำขาน
ส่งเสียงหวาน ประสานลม พรมพลิ้วไหว
ฟังเสนาะเพราะกังวาน ผ่านแนวไพร
ให้หลงใหล ใฝ่ฝันเจ้า เฝ้ากงทอง
จับเจ้ามา ขังกง ลงดานเฝ้า
ฟังเสียงเจ้า เฝ้ากง สงเสียงร้อง
ยินสำเนียง เสียงเจ้า เฝ้าไตรตอง
เป็นทำนอง ร้องถามว่า ข้าผิดใด
ชลนา ทิชากร
ปรุง
« เมื่อ: 23 ตุลาคม 2013, 09:20:pm »
« เมื่อ: 23 ตุลาคม 2013, 09:20:pm »
ปรุงน้ำค้างพร่าพรมที่ห่มเห่
ให้เป็นความว้าเหว่ที่เเสนเหงา
คนหลายรักมักมุ่งปรุงรูปเงา
ให้รู้สึกลึกเศร้าให้เหงาใจ
กระทั่งแสงจันทราราตรีกาล
เธอปรุงผ่านธารคำมาย้ำไข
เพื่อหวลหอมสิเนหาจิตาลัย
กระทั่งใครลึกซึ้งคิดถึงเธอ
boonna
ให้เป็นความว้าเหว่ที่เเสนเหงา
คนหลายรักมักมุ่งปรุงรูปเงา
ให้รู้สึกลึกเศร้าให้เหงาใจ
กระทั่งแสงจันทราราตรีกาล
เธอปรุงผ่านธารคำมาย้ำไข
เพื่อหวลหอมสิเนหาจิตาลัย
กระทั่งใครลึกซึ้งคิดถึงเธอ
boonna
ปรุงน้ำคำ ทำไม ให้ใจเขว
รักรวนเร เห่หัน ให้ฝันเก้อ
คงอกหัก รักไกล ใครทำเธอ
มาละเมอ เพ้อพก ให้รกใจ
เธอมีใจ ไปไม่ถึง ซึ้งความรัก
คงอกหัก รักคุด สุดทนไหว
จึงเพ้อบ่น ก่นดา ว่าเรื่อยไป
จนใครใคร ไม่เคยซึ้ง คิดถึงเธอ
ชลนา ทิชากร
รักรวนเร เห่หัน ให้ฝันเก้อ
คงอกหัก รักไกล ใครทำเธอ
มาละเมอ เพ้อพก ให้รกใจ
เธอมีใจ ไปไม่ถึง ซึ้งความรัก
คงอกหัก รักคุด สุดทนไหว
จึงเพ้อบ่น ก่นดา ว่าเรื่อยไป
จนใครใคร ไม่เคยซึ้ง คิดถึงเธอ
ชลนา ทิชากร
Re: ฝากไว้ให้ความรัก
« ตอบ #6 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2013, 02:40:pm »
« ตอบ #6 เมื่อ: 27 ตุลาคม 2013, 02:40:pm »
เธอ..ในวันเก่า
เคยแนบเนา เฝ้าฝัน วันสุขี
ช่างเสกสรร ปันร้อย ถ้อยวจี
ดวงฤดี ทวีเพิ่ม เคลิ้มตามไป
ผิดสังเกตุ เหตุห่าง เจือจางลด
ทั้งถ้อยพจน์ หดหาย กลายไฉน
ก่อนเคยมี มิเหลือ แล้วเยื่อใย
จำต้องไกล ในเมื่อ เธอเบื่อคอย
ภาพย้ำเตือน เยือนยล ทุกหนแห่ง
ใจเธอแบ่ง แกว่งไกว ให้ยับย่อย
มิมั่นคง ลงหลัก สลักลอย
ถามเธอหน่อย..ตัดใจใช้ อะไรทอน...?
ตัดอย่างอื่น หมื่นพัน ก็บั่นสิ้น
ตัดดวงจินต์ นี้อนาถ ยากขาด,ถอน
ณ.วันนี้ ความหลัง ฝังอาวรณ์
ยามจะนอน หมอนยังชุ่ม อุ้มน้ำตา
"ดิน"
เคยแนบเนา เฝ้าฝัน วันสุขี
ช่างเสกสรร ปันร้อย ถ้อยวจี
ดวงฤดี ทวีเพิ่ม เคลิ้มตามไป
ผิดสังเกตุ เหตุห่าง เจือจางลด
ทั้งถ้อยพจน์ หดหาย กลายไฉน
ก่อนเคยมี มิเหลือ แล้วเยื่อใย
จำต้องไกล ในเมื่อ เธอเบื่อคอย
ภาพย้ำเตือน เยือนยล ทุกหนแห่ง
ใจเธอแบ่ง แกว่งไกว ให้ยับย่อย
มิมั่นคง ลงหลัก สลักลอย
ถามเธอหน่อย..ตัดใจใช้ อะไรทอน...?
ตัดอย่างอื่น หมื่นพัน ก็บั่นสิ้น
ตัดดวงจินต์ นี้อนาถ ยากขาด,ถอน
ณ.วันนี้ ความหลัง ฝังอาวรณ์
ยามจะนอน หมอนยังชุ่ม อุ้มน้ำตา
"ดิน"
ฉัน.............ในวันเก่า
ยังแนบเนา เฝ้าฝัน รำพันหา
ยังรำพัน ปันคำ พร่ำวาจา
มิซ่างซา ราร้าง จางจากใจ
ถ้าสังเกต เจตนา ไม่ราลด
ยังหวานหยด จดจาร พร่ำขานไข
ร้อยลำนำ คำกลอน วอนลมไป
ยังห่วงใย ใฝ่คะนึง คิดถึงเธอ
ภาพก่อนเก่า เนาแนบ แอบอกฉัน
ทุกคืนวัน ฝันถึง ซึ้งเสมอ
ยังมั่นคง จงรัก ภักดิ์บำเรอ
นอนละเมอ เพ้อฝัน ใจรัญจวน
มิเคยปัด ตัดใจ ไกลเหินห่าง
รักไม่จาง ร้างรา อย่ากำสรวล
ยังมั่นคง หลงใหล ในเนื้อนวล
อย่าเพิ่งด่วน ครวญคร่ำ พร่ำน้ำตา
ชลนา ทิชากร
ยังแนบเนา เฝ้าฝัน รำพันหา
ยังรำพัน ปันคำ พร่ำวาจา
มิซ่างซา ราร้าง จางจากใจ
ถ้าสังเกต เจตนา ไม่ราลด
ยังหวานหยด จดจาร พร่ำขานไข
ร้อยลำนำ คำกลอน วอนลมไป
ยังห่วงใย ใฝ่คะนึง คิดถึงเธอ
ภาพก่อนเก่า เนาแนบ แอบอกฉัน
ทุกคืนวัน ฝันถึง ซึ้งเสมอ
ยังมั่นคง จงรัก ภักดิ์บำเรอ
นอนละเมอ เพ้อฝัน ใจรัญจวน
มิเคยปัด ตัดใจ ไกลเหินห่าง
รักไม่จาง ร้างรา อย่ากำสรวล
ยังมั่นคง หลงใหล ในเนื้อนวล
อย่าเพิ่งด่วน ครวญคร่ำ พร่ำน้ำตา
ชลนา ทิชากร
Re: ฝากไว้ให้ความรัก
« ตอบ #10 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2013, 03:35:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 27 ตุลาคม 2013, 05:48:pm
« ตอบ #10 เมื่อ: 28 ตุลาคม 2013, 03:35:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 27 ตุลาคม 2013, 05:48:pm
เธอแต่ก่อน อ้อนประจำ ค่ำยันเช้า
มิสร่างเซา เช้ายันค่ำ พร่ำสรรหา(ครบวัน)
ณ.บัดนี้ พี่หาย มิกรายมา
หรือตั้งใจ ไกลตา จึงลาจาง
รู้บ้างไหม ใจเอย เฉย..แต่ช้ำ
ทนกลืนกล้ำ ฉ่ำปอน จนค่อนสาง
ทั้งดาวเดือน เคลื่อนดับ ลับเลือนลาง
ไหลทาบทาง รางเรียว เหนียวแก้มนวล
อกระทม ข่มทุกข์ ที่รุกเร้า
ใจแสนเหงา เฉาแท้ แดปั่นป่วน
รู้ก่อนนี้ พี่ชาย ใจเรรวน
จับตีตรวน แน่นอน ตอนซะเลย
"ดิน"
มิสร่างเซา เช้ายันค่ำ พร่ำสรรหา(ครบวัน)
ณ.บัดนี้ พี่หาย มิกรายมา
หรือตั้งใจ ไกลตา จึงลาจาง
รู้บ้างไหม ใจเอย เฉย..แต่ช้ำ
ทนกลืนกล้ำ ฉ่ำปอน จนค่อนสาง
ทั้งดาวเดือน เคลื่อนดับ ลับเลือนลาง
ไหลทาบทาง รางเรียว เหนียวแก้มนวล
อกระทม ข่มทุกข์ ที่รุกเร้า
ใจแสนเหงา เฉาแท้ แดปั่นป่วน
รู้ก่อนนี้ พี่ชาย ใจเรรวน
จับตีตรวน แน่นอน ตอนซะเลย
"ดิน"
ฉันแต่ก่อน อ้อนประจำ คำนี้ใช่
เนินนานไป ใจฉัน มันชาเฉย
เห็นเธอวอน อ้อนคนอื่น ชื่นชมเชย
ฉันก็เลย เกยใจ ไว้ตรงกลาง
ใครจะรู้ ดูเธอชื่น รื่นเริงร่า
ไร้น้ำตา บ่าหยด ปดมาอ้าง
หรือว่าเธอ เผลอไป ใจเลือนราง
ดูท่าทาง ห่างเหิน หมางเมินไป
ฉันระทม ขมขื่น ยื่นหน้าเศร้า
ใจหงอยเหงา เศร้าหม่น พอทนไหว
ดูเธอวอน อ้อนคนอื่น ชื่นช่ำใจ
เธออ้อนใคร ไม่หวงห้าม ตามใจเธอ
ชลนา ทิชากร
เนินนานไป ใจฉัน มันชาเฉย
เห็นเธอวอน อ้อนคนอื่น ชื่นชมเชย
ฉันก็เลย เกยใจ ไว้ตรงกลาง
ใครจะรู้ ดูเธอชื่น รื่นเริงร่า
ไร้น้ำตา บ่าหยด ปดมาอ้าง
หรือว่าเธอ เผลอไป ใจเลือนราง
ดูท่าทาง ห่างเหิน หมางเมินไป
ฉันระทม ขมขื่น ยื่นหน้าเศร้า
ใจหงอยเหงา เศร้าหม่น พอทนไหว
ดูเธอวอน อ้อนคนอื่น ชื่นช่ำใจ
เธออ้อนใคร ไม่หวงห้าม ตามใจเธอ
ชลนา ทิชากร
::::::ชายในฝัน:::::.....?
« เมื่อ: 29 ตุลาคม 2013, 01:51:pm »
« เมื่อ: 29 ตุลาคม 2013, 01:51:pm »
ดูองอาจ มาดเข้ม ชายเต็มร้อย
คนพูดน้อย อ่อนหวาน ยามขานไข
ผิวสีแทน แขนกล้าม วาบหวามใจ
อกตึงไหล่ ผายผึ่ง งามตรึงตรา
ขยันงาน นอกใน สนใจช่วย
เอื้ออำนวย ยามว่าง สร้างสรรหา
อบอุ่นอิง พิงพึ่ง ตรึงอุรา
ไม่มรึงมา พาโวย โกงโกยกิน
ละอบาย กายใจ ใฝ่ธรรมะ
สมถะ ประหยัด สะอาดกลิ่น
เอาใจใส่ ภรรยา เป็นอาจิณ
ไม่หยามหมิ่น อดทน คนทำจริง
ฟาดแค่อิ่ม ริมถนน มิบ่นบึ้ง
มิหวงหึง เกินดู รู้ใจหญิง
มีบ้างไหม ชายใด ฉันหมายอิง
จะมิทิ้ง อยู่ด้วยกัน ยันเผาเชียว
"ดิน"
คนพูดน้อย อ่อนหวาน ยามขานไข
ผิวสีแทน แขนกล้าม วาบหวามใจ
อกตึงไหล่ ผายผึ่ง งามตรึงตรา
ขยันงาน นอกใน สนใจช่วย
เอื้ออำนวย ยามว่าง สร้างสรรหา
อบอุ่นอิง พิงพึ่ง ตรึงอุรา
ไม่มรึงมา พาโวย โกงโกยกิน
ละอบาย กายใจ ใฝ่ธรรมะ
สมถะ ประหยัด สะอาดกลิ่น
เอาใจใส่ ภรรยา เป็นอาจิณ
ไม่หยามหมิ่น อดทน คนทำจริง
ฟาดแค่อิ่ม ริมถนน มิบ่นบึ้ง
มิหวงหึง เกินดู รู้ใจหญิง
มีบ้างไหม ชายใด ฉันหมายอิง
จะมิทิ้ง อยู่ด้วยกัน ยันเผาเชียว
"ดิน"
หญิงในฝัน ตื่นนอน ตอนตีสี่
ฝันได้ที เกือบไป แค่ใจเสียว
เสียดายนัก กำลังเคลิ้ม เพิ่งเริ่มเชียว
อีกนิดเดียว ใจหาย เสียดายจัง
ฝันว่าเธอ อยู่บ้านสวน ลำดวนดก
ดอกร่วงตก กิ่งก้าน บานสะพรั่ง
เธอช่างงาม ไม่สร่างสิ้น ดินเกรอะกรัง
แต่ก็ยัง งมงาม อร่ามตา
เด็ดลำดวน ยวนใจ เสียบใบหู
มัวพิศดู เสียบหล่น จนประหม่า
อยากจุมพิต สองปราง สอางค์ตา
ใจไม่กล้า หวั่นหวิว สยิวทรวง
รวมความกล้า อีกครั้ง ยังประหม่า
ใจกะว่า จะคว้าหมับ จับของหวง
จะคลึงเคล้า หยอกเย้า เจ้าพุ่มพวง
ใจวูบร่วง หล่นพื้น ตื่นพอดี
ชลนา ทิชากร
ฝันได้ที เกือบไป แค่ใจเสียว
เสียดายนัก กำลังเคลิ้ม เพิ่งเริ่มเชียว
อีกนิดเดียว ใจหาย เสียดายจัง
ฝันว่าเธอ อยู่บ้านสวน ลำดวนดก
ดอกร่วงตก กิ่งก้าน บานสะพรั่ง
เธอช่างงาม ไม่สร่างสิ้น ดินเกรอะกรัง
แต่ก็ยัง งมงาม อร่ามตา
เด็ดลำดวน ยวนใจ เสียบใบหู
มัวพิศดู เสียบหล่น จนประหม่า
อยากจุมพิต สองปราง สอางค์ตา
ใจไม่กล้า หวั่นหวิว สยิวทรวง
รวมความกล้า อีกครั้ง ยังประหม่า
ใจกะว่า จะคว้าหมับ จับของหวง
จะคลึงเคล้า หยอกเย้า เจ้าพุ่มพวง
ใจวูบร่วง หล่นพื้น ตื่นพอดี
ชลนา ทิชากร