Re:***เสน่ห์ เมืองไทย**
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 10:20:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: Re:***เสน่ห์ เมืองไทย**ชุมพร  (อ่าน 40554 ครั้ง)
ไร้นวล^^
ผู้ดูแลบอร์ด
*

คะแนนกลอนของผู้นี้ 825
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,430

โปรดแนะนำเพื่อค้ำชูภาษาไทย


« เมื่อ: 23 เมษายน 2013, 10:42:PM »







๐ ณ คีรีศิริล้ำกล้ำพนัส
เจิดจรัสโรจน์รุจวิสุทธิ์ศาส์น
สะพรั่งพร้อมผ่องทิวาราตรีกาล
บรรพตชาลชื่อทอกโปรยดอกบุญ

๐หลวงปู่จวนอรหันต์ปัญญาปราชญ์
ท่านสามารถสร้างทางสว่างหนุน
บันไดเวียนวนยอดอย่างวิบุลย์
ประพฤติคุณคือวัตรวิปัสสนา

๐ภูศักดิ์สิทธิ์ทวยเทพเทวารักษ์
เฝ้าพิทักษ์ทิพพรตสมยศฐา
นบหน่อเนื้อนาบุญวิรุฬห์พา
พบดวงตาแห่งธรรมจำรูญเรือง

วัดภูทอก หรือวัดเจติยาคิีรีวิหาร
ตั้งอยู่ที่บ้านคำแคนพัฒนา ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ

ภูทอกมีขนาดความสูงจากฐานถึงยอด 460 เมตร มีบันไดเรียงขึ้นตามชั้นต่าง ๆ 7 ชั้น และฐานชั้นที่ 6 วัดโดยรอบได้ 800 เมตร เป็นหน้าผาสูงชันมีที่ธรณีสงฆ์ 78 ไร่ 3 งาน 18 ตารางวา

   วัดเจติยาคิรีวิหาร หรือ ภูทอก ตั้งขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2483 โดยพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ(ศิษย์พระอาจารย์มั่น ภุริทัตโต) ได้มาบำเพ็ญเพียรอยู่ที่ภูวัว อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย คืนหนึ่งได้เกิดนิมิตรขึ้นเห็นปราสาท 2 หลัง ลักษณะสวยงามมากอยู่ทางด้านภูทอกน้อย ดังนั้นพระอาจารย์จวนกุลเชฎโฐ จึงได้เดินทางมาพิสูจน์ตามที่เกิดนิมิตร และได้พบลักษณะภูมิประเทศที่สวยงานร่มรื่น เหมาะที่จะปฏิบัติธรรม จึงได้สำรวจ และปักกรดอยู่ที่ ถ้ำบนภูทอก กับพระครูศริธรรมวัฒน์ ต่อมาชาวบ้านคำแคนเห็นพระอาจารย์จวน ธุดงภ์มาอยู่ที่ภูทอก จึงพร้อมใจกันอาราธนาให้สร้างวัด ขึ้นที่ภูทอก

   ในปีพุทธศักราช 2512 ชาวบ้านนาคำแคนได้มาช่วยกันสร้างบันได้ขึ้นภูทอก จนถึงชั้นที่ 5-6 และได้ปลูกสร้างเสนาสนะสำหรับพระสงฆ์อยู่ถึง 2 เดือน 10 วัน จึงเสร็จ

    ในปีพุทธศักราช 2513-2514 พระอาจารย์จวน กุลเชตุโฐ ได้ชักชวนชาวบ้าน สร้างทำนบกั้นน้ำขึ้น 2 แห่ง เพื่อใช้เก็บกักน้ำ และจัดระบบน้ำประปาขึ้นภายในวัดภูทอก

    นอกจากนั้นกรมวิเทศสหการได้ถวายพระพุทธรูป หล่อขนาดใหญ่เป็นประธาน 1 องค์ ไว้ที่วิหารชั้น 5 และบรรดาญาติโยมได้ช่วยกันสมทบทุนสร้างโรงฉัน และศาลาที่ชั้น 1 หลัง พร้อมกับการก่อสร้างสะพานลอยฟ้าไปรอบ ๆ ภูทอกในชั้นที่ 5 และชั้นที่ 6 และได้สร้างสถานที่บำเพ็ญเพียรภาวนา แทรกไว้ตาม จุดต่าง ๆ โดยรอบหน้าผา ซึ่งการก่อสร้างเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะเป็นการเจาะหินทำนั่งร้านด้วยไม้ เนื้อแข็ง 2 ท่อน ผูกติดกับเสาที่ปักไม้เท้าแขนลงไปแล้วจึงพาดไม้กระดานเป็นสะพานที่ละช่วง ๆ ละประมาณ 1 เมตรเศษ ระหว่างคาน จะมีคานรองรับอีกชั้นหนึ่ง จึงทำให้สะพานแข็งแรงมาก นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์แก่ผู้พบเห็นอย่างยิ่ง และเมื่อวันที่ 27 เมษายน พุทธศักราช 2523 พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐได้รับนิมนต์ไปกรุงเทพฯ และได้ประสพอุบัติเหตุเครื่องบินตก ถึงแก่มรณภาพ (อัฐิของท่านได้แปรสภาพเป็นพระธาตุ) สิริรวมอายุได้ 59 ปี 9 เดือน 18 วัน 38 พรรษา  เคารพรัก เคารพรัก เคารพรัก

ปล.กระผมเองเดินได้ถึงชั้น5ก็ไม่ไหวแล้วครับ เพราะชั้น6และ7นั้นหน้าผาสูงชันมาก ท่านว่าวัดแห่งนี้มีพระปัจเจกพุทธเจ้ามานิพพานหลายองค์ และมีเทวดาศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองอยู่มาก ใครได้ไปกราบบูชาถือว่าเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง แต่ต้องสำรวมกายใจอย่างมากๆเพราะเจ้าป่าเจ้าเขาท่านเคารพวัดแห่งนี้มาก





ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

ดารกะ, ชลนา ทิชากร, ปู่ริน, รัตนาวดี, อริญชย์, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, ไพร พนาวัลย์, Shumbala, ยามพระอาทิตย์อัสดง, ตรีประภัสร์ โสม

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 เมษายน 2013, 11:21:PM โดย ไร้หนาม-ไร้น่วม » บันทึกการเข้า

แดนดินใดให้เราเกิด  เราจะเทิดทูนไว้เหนือเศียร

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s