Re: เชิญบ้าง.......เชิญแต่งฉันท์พันบท......โดยใช้เวลาสักสิบปีน่าจะพอ
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 08:04:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เชิญบ้าง.......เชิญแต่งฉันท์พันบท......โดยใช้เวลาสักสิบปีน่าจะพอ  (อ่าน 209341 ครั้ง)
ศรีเปรื่อง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 220
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 371


ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี...เพื่อหย่อนฤดี


« เมื่อ: 22 เมษายน 2013, 07:07:PM »

(มาณวกฉันท์ ๘)

รักแท้....แค่คำลวง

อัตมะขอ           ทอวทะสาน
บรรพะนิทาน       สอนจิตะหญิง
"รัก" ปุมะเอ่ย      เผยมิประวิง
ควรพิเคราะห์อิง    เหตุและผล

***

มีนุชะหนึ่ง         ซึ่งปุระนาง
สุดจะสะอาง       ล้ำปุถุชน
หนุ่มและก็ป๋า      มาบทะวน
หมายนิรมล        องคยุพา

เอกปุมะเลิศ       เพริศเสนาะถ้อย
ใครสุตะพลอย     ลุ่มกมลา
เทียวจระหยอด    พลอดพจนา
จนพนิดา           มีจิตะปลง

ภักดิสมัคร        รักปุมะนั้น
หลับ ฤ ก็ฝัน      เพ้อเพราะพะวง
ยามทิวะรุ่ง         มุ่งมุประสงค์
พบวรองค์         ชายวทะดี

จวบทินหนึ่ง       จึ่งปุมะงาม
มีกิจตาม          ป่าพนะลี
เอ่ยพจะชวน      นวลดรุณี
ท่องอฏวี          หย่อนหฤทัย

หว่างมรคา        ป่าวนวัน
พบพะฉกรรจ์     หมีสริร์ใหญ่
ขู่ฮะฮะโฮก      โหวกวะวะไกล
โผนกะยะใส่     สองนรชน

นวลฉวิเพ็ญ      เห็นภยะร้าย
กล้ำจระกราย    มาณพะตน
กู่สรร้อง          ก้องพนะสนฑ์
"หนีสิกมล       ทูนศิรษา"

ฝ่ายปุมะเพริศ   เปิดมิประวิง
รีบจระวิ่ง         ขึ้นรุกะขา
ไป่พิศแล        แขสริรา
ปล่อยยุวภา      เดี่ยววรกาย

จึ่งนุชะแกล้ง    แสร้งสติเลือน
นอนมิเขยื้อน   ดุจชิวะวาย
หมีก็งะงัน       สั่นศิระส่าย
แลนรชาย       คล้ายวะจะหยาม

มันจรดล        จนพะประชิด
ใกล้กะกนิษฐ์   ผ่องสิริงาม
ทิ้งวทะไว้       ให้ดำริตาม
"นี่ ฤ วะความ   รักปุมะทำ"

***


รักบ่มิอาจ          คาดกะประมาณ
ด้วยพจมาน         ถ้อยมธุคำ
ต้องพิเคราะห์นาน  ผ่านพฤติกรรม
จึงจะมิช้ำ           ชอกหทยา

เหตุวิกฤต          บิดกละลวง
เผยมนทรวง       สู่นยนา
ยากจะเสาะรัก     ภักดิอุรา
จนวะชิวา           ตักษยะแทน (๕๐๔)

ศรีเปรื่อง
๒๒ เม.ย. ๒๕๕๖

ปล.

อัตมะ = ข้าพเจ้า
ปุมะ = เพศชาย
ปุระ = ร่างกาย (จริง ๆ แปลว่า เมือง ได้ด้วย แต่ในที่นี้ คือ ร่างกาย ครับ)
สุตะ = ฟัง
นร = คน, ชาย
ทิน = วัน
สร = เสียง
ป๋า = ชายแก่ ที่มีตังค์เยอะ ๆ ชอบมีกิ๊กเด็ก ๆ
อฏวี = ป่า
รุกะขา จาก รุกข = ต้นไม้
พะ = ปะทะกัน, ชนกัน
งะงัน กร่อนจาก งงงัน
ฮะฮะโฮก กร่อนจาก โฮกโฮกโฮก
โหวกวะวะ กรอนจาก โหวกโหวกโหวก
ตักษยะ จาก ตักษัย

*** ใส่ อะ เข้าไปเผื่อเพื่อน ๆ ที่ไม่ถนัดอ่านฉันท์ครับ ***

ขอบคุณท่าน ไร้หนาม-ไร้น่วม ที่ช่วยตรวจสอบความสมบูรณ์ของงานให้ครับ



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

อริญชย์, ...เป็ดน้ำ..., พี.พูนสุข, เนิน จำราย, ไร้นวล^^, รพีกาญจน์, รัตนาวดี, ปู่ริน, ชลนา ทิชากร, choy, กรกช

ข้อความนี้ มี 11 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 เมษายน 2013, 09:30:PM โดย ศรีเปรื่อง » บันทึกการเข้า


Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s