Re: เชิญบ้าง.......เชิญแต่งฉันท์พันบท......โดยใช้เวลาสักสิบปีน่าจะพอ
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 08:47:AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เชิญบ้าง.......เชิญแต่งฉันท์พันบท......โดยใช้เวลาสักสิบปีน่าจะพอ  (อ่าน 209383 ครั้ง)
ศรีเปรื่อง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 220
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 371


ข้าพเจ้าเพียงใช้บทกวี...เพื่อหย่อนฤดี


« เมื่อ: 20 เมษายน 2013, 09:24:PM »

หัวเราะยิ้มๆ อืมม.. น่าสนุกดีครับ...ถึงบทที่เท่าไหร่กันแล้วเนี่ย  งง....

เพลินอุระเหลือ    เมื่อพิศฉันท์
เล่หประพันธ์       อันรตะยิ่ง
รีบจรมา            คลามิประวิง
สรรค์ลำนำพริ้ง    มาณวกล

อยากรจเรข        เสกเสนาะกลอน
เป็นบทตอน       สอนปุถุชน
แต่เพราะวะด้อย   ถ้อยคุณผล
อับจิตจน          หนมรคา

พุทธประวัติ       อรรถพระธรรม
เปรียบกชต่ำ      ชั้นจตวา
ปูและก็เต่า        เหล่ามสยา
ทึ้งดุจอา-         หารเสวย

แถม..อพิโธ่!      โลกวิถี
นั้นก็บมี            ทรามวยเชย
นอนมิสนุก         ลุกมิเสบย
ร้องวะวะเหวย      ก่นคคนา

ถิ่นคฤห์สถาน     บ้านกวิใหญ่
มีพธุไหน          เอ้สริรา
สนนรชาย         กายและชิวา
หลงบทมา-       ณาวกเพลง

ศรีเปรื่อง
๒๐ เม.ย. ๒๕๕๖

ปล.

รตะ = ความสนุก
รจเรข = แต่ง
วะ แผลงจาก ว่า
มรคา = ทาง
กช = ดอกบัว
จตวา จาก จัตวา = สี่
มสยา จาก มัสยา
โลกวิถี (โลก + วิถี) = วิถีทางโลก
ทรามวย จาก ทรามวัย
ร้องวะวะเหวย กร่อนจาก ร้องเหวยเหวยเหวย
คคนา จาก คคนะ = ท้องฟ้า
กวิ จาก กวี
พธุ จาก พธู
ชิวา จาก ชีวา
มา- ณาวก จาก มาณวก

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

ไร้นวล^^, รพีกาญจน์, พี.พูนสุข, saknun, รัตนาวดี, ไพร พนาวัลย์, คอนพูธน, Shumbala, ...เป็ดน้ำ..., อริญชย์, เนิน จำราย, ชลนา ทิชากร, ไม่รู้ใจ, ปู่ริน, choy

ข้อความนี้ มี 15 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า


Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s