Re: .......... อยากจะรักสักครั้ง .........
« ตอบ #3 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2012, 08:36:pm »
....อยากจะรัก สักครั้ง ความหวังใหม่
เพราะเห็นใคร เขาชื่น รื่นสุขสันต์
ด้วยประจักษ์ รักปลุก สุขใจพลัน
บอกดวงใจ ให้ฝัน รั้นหาดู...
...อยากจะชื่น รื่นรมย์ เพราะสมรัก
โลกคงจัก เป็นใจ ให้คว้าอยู่
มองทุกที่ สีเห็น เป็นชมพู
สร้างโลกสวย เพราะรู้ รักคู่ใจ...
...สั่งใจลอง ปองหา มาอีกครั้ง
หวังเธอจัง เลยจิต แอบคิดใฝ่
ดวงใจจ๋า ป่านนี้ อยูที่ใด
รับรู้ไว้ เถิดหนา ว่าใครคอย...
...อยากมีรัก ที่สวย ช่วยสุขให้
เพราะฤทัย แอบหวัง สั่งรอบ่อย
ด้วยความเหงา เฝ้าฝัน หวั่นเลื่อนลอย
ยามมองเมฆ เคลื่อนคล้อย แล้วปล่อยจินต์...
...อยากจะมี เหมือนใจ ใครที่คลั่ง
อยากรู้หยั่ง ถึงยาม ความรักดิ้น
อยากสัมผัส จัดใฝ่ ให้ชีวิน
ว่าถวิล เน้นสร้าง รักอย่างไร...
...อยากมีรัก สักครั้ง ตั้งใจยิ่ง
คล้ายทุกสิ่ง เหมือนฝัน อันสดใส
ที่ว่างเปล่า ไร้เธอ แค่เพ้อไป
มองทางไหน ยังเห็น เป็นสี...(เทา)...
รัตนาวดี
อยากจะรัก สักครั้ง ยังจำได้
เธอไฉไล สวยกว่าใคร ใจหมองเศร้า
ได้แต่รัก เธอข้างเดียว เปลี่ยวใจเรา
หลงคอยเฝ้า รอเธออยู่ แต่ผู้เดียว
อยากจะรัก สักครั้ง หวังใจว่า
วาสนา ของเรา ไม่เฉาเหี่ยว
คงจะมี สักครั้ง ดังคมเคียว
ที่ได้เกี่ยว หัวใจ เธอไว้ครอง
อยากจะรัก สักครั้ง ยังหวังอยู่
ยอดพธู คงเห็นใจ ในเราสอง
ให้โอกาส พี่สักครั้ง ที่หวังปอง
ขอเพียงน้อง ให้สมหวัง สักครั้งเทอญ
ชลนา ทิชากร
คิดฮอดคู่รักกลอน
« เมื่อ: 06 เมษายน 2014, 12:18:pm »
« เมื่อ: 06 เมษายน 2014, 12:18:pm »
ดอกเอ๋ยดอกกันเกรา
ช่อเฉลาข้อยคอยเจ้าเข้าเมษาฯ
ตั้งตาแลเช้ายันเย็นไม่เห็นมา
หรือเลยลาเลือนลับลืมกลับแล้ว
เคยดื่มด่ำร่ำหอมสุขกล่อมจิต
ชุบชีวิตหม่นหมองให้ผ่องแผ้ว
เสือติดกรงหลงทิศนกติดแร้ว
ใช่เจื้อยแจ้วยอมรับหนอว่าพอกัน
คู่เอยคู่รักกลอน
ซึ้งออนซอนหายห่างเส้นทางฝัน
สัมผัสวรรคอักษรแต่ก่อนนั้น
เวียนนับวันประสงค์มั่นคงนัก
จรดจิ้มพิมพ์แป้นยากแสนฝืน
ที่เคยลื่่นเจ่าจุกตะกุกตะกัก
ตั้งสมองตรองดูอยู่หลายพัก
จึงจำหลักเรียงร้อยผูกถ้อยรอ
เนิน จำราย
ช่อเฉลาข้อยคอยเจ้าเข้าเมษาฯ
ตั้งตาแลเช้ายันเย็นไม่เห็นมา
หรือเลยลาเลือนลับลืมกลับแล้ว
เคยดื่มด่ำร่ำหอมสุขกล่อมจิต
ชุบชีวิตหม่นหมองให้ผ่องแผ้ว
เสือติดกรงหลงทิศนกติดแร้ว
ใช่เจื้อยแจ้วยอมรับหนอว่าพอกัน
คู่เอยคู่รักกลอน
ซึ้งออนซอนหายห่างเส้นทางฝัน
สัมผัสวรรคอักษรแต่ก่อนนั้น
เวียนนับวันประสงค์มั่นคงนัก
จรดจิ้มพิมพ์แป้นยากแสนฝืน
ที่เคยลื่่นเจ่าจุกตะกุกตะกัก
ตั้งสมองตรองดูอยู่หลายพัก
จึงจำหลักเรียงร้อยผูกถ้อยรอ
เนิน จำราย
ดอกเอ๋ย ดอกรัก ปักใจเฉา
ช่อเฉลา เย้าลม พรมพัดล่อ
โอนช่อไหว ไกวแกวง แรงลมล้อ
สวยลออ ช่องาม อร่ามตา
ดอกสีขาว น้าวใจ ให้ชวนมอง
ขาวนวลผ่อง ต้องใจ ให้มองหา
ยามรักซอน ซ้อนรัก หนักอุรา
อนิจจา รักฉัน ผันแปรไป
คู่เอ๋ย คู่รัก ของนักกลอน
เคยออดอ้อน กลอนกานท์ เพร่ำขานไข
บัดนี้เหงา เศร้าหม่น คนรักไกล
เปลี่ยนว็บใหม่ ใช้บอร์ด ยอดคำคม
จรดจิ้มพิมพ์ ยิ้มแหย แพ้พ่ายรัก
ต้องอกหัก รักคุด สุดขื่นขม
คู่รักเก่า เข้าบอร์ดอื่น ชื่นอกตรม
หมดอารมณ์ จมเศร้า เฝ้าบอร์ดรอ
ชลนา ทิชากร
ช่อเฉลา เย้าลม พรมพัดล่อ
โอนช่อไหว ไกวแกวง แรงลมล้อ
สวยลออ ช่องาม อร่ามตา
ดอกสีขาว น้าวใจ ให้ชวนมอง
ขาวนวลผ่อง ต้องใจ ให้มองหา
ยามรักซอน ซ้อนรัก หนักอุรา
อนิจจา รักฉัน ผันแปรไป
คู่เอ๋ย คู่รัก ของนักกลอน
เคยออดอ้อน กลอนกานท์ เพร่ำขานไข
บัดนี้เหงา เศร้าหม่น คนรักไกล
เปลี่ยนว็บใหม่ ใช้บอร์ด ยอดคำคม
จรดจิ้มพิมพ์ ยิ้มแหย แพ้พ่ายรัก
ต้องอกหัก รักคุด สุดขื่นขม
คู่รักเก่า เข้าบอร์ดอื่น ชื่นอกตรม
หมดอารมณ์ จมเศร้า เฝ้าบอร์ดรอ
ชลนา ทิชากร
Re: คิดฮอดคู่รักกลอน
« ตอบ #2 เมื่อ: 07 เมษายน 2014, 04:27:pm »
« ตอบ #2 เมื่อ: 07 เมษายน 2014, 04:27:pm »
ชลเอ๋ยชลนัยน์
อรทัยซำ้เติมพี่เพิ่มหนอ
คนเจ็บช้ำซ้ำหนักยังดักคอ
แกล้งหยอกล้อหักเหให้เรรวน
เถอะไปไหนไม่ไกลหรอกใจนี้
ยังจู้จี้ถามทักประจักษ์หวน
เยือนเพื่อนบ้านเผื่อแจกแลกสำนวน
นกนางนวลรักรังดังเก่าเอย
เนิน จำราย
อรทัยซำ้เติมพี่เพิ่มหนอ
คนเจ็บช้ำซ้ำหนักยังดักคอ
แกล้งหยอกล้อหักเหให้เรรวน
เถอะไปไหนไม่ไกลหรอกใจนี้
ยังจู้จี้ถามทักประจักษ์หวน
เยือนเพื่อนบ้านเผื่อแจกแลกสำนวน
นกนางนวลรักรังดังเก่าเอย
เนิน จำราย
นกนางนวล ซวนเซ ทะเลกว้าง
ปีกเจ้าบาง กางบิน ถิ่นไหนเอ่ย
เจ้าอกหัก รักเหงา เศร้าจังเลย
มาเฉลย เผยบอก ออกจากใจ
นางนวลเอย เคยช้ำ ระกำเศร้า
ไปบ้านเขา เศร้าคลาย สลายไหม
หรือเจอคู่ ชู้รัก ปักทรวงใน
เจอคนใหม่ ใสปิ้ง ทิ้งบ้านกลอน
หากวันไหน ใจตรม ระทมเศร้า
กลับบ้านเรา เศร้าคลาย ถูกถ่ายถอน
มาหนุนตัก ยักย้าย เอนกายนอน
จะออดอ้อน ป้อนยา รักษาใจ
ชลนา ทิชากร
ปีกเจ้าบาง กางบิน ถิ่นไหนเอ่ย
เจ้าอกหัก รักเหงา เศร้าจังเลย
มาเฉลย เผยบอก ออกจากใจ
นางนวลเอย เคยช้ำ ระกำเศร้า
ไปบ้านเขา เศร้าคลาย สลายไหม
หรือเจอคู่ ชู้รัก ปักทรวงใน
เจอคนใหม่ ใสปิ้ง ทิ้งบ้านกลอน
หากวันไหน ใจตรม ระทมเศร้า
กลับบ้านเรา เศร้าคลาย ถูกถ่ายถอน
มาหนุนตัก ยักย้าย เอนกายนอน
จะออดอ้อน ป้อนยา รักษาใจ
ชลนา ทิชากร
~* กลางคืน *~
« เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2014, 01:02:am »
« เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2014, 01:02:am »
~* กลางคืน *~
" ช่วงขณะหนึ่งนั้น ฉันมองฟ้า
ความมืดของนภา พาหวั่นไหว
เงียบค่ำคืน กลืนคืนค่ำ ย้ำดวงใจ
เหตุไฉน? ใยเล่า.. เฝ้าคะนึง
ความสับสนปนเป คะเนหา
คำพูดเก่า เนาว์มา ว่าคิดถึง
ประโยคเศร้า เล่าซ้ำ คำตราตรึง
เพียงวูบหนึง พึงใจ ฤๅใกล้กัน
ระยะห่าง ระยะไกล อย่างไรหนอ
คนรอท้อ ยังรอคอย ยังคอยฝัน
แม้อยากหมุน หมุนช่วงกาล ผ่านเร็วพลัน
คงไร้วัน วันได้พบ ได้สบตา
-
---
-
ณ ตรงนี้ ที่นี่ ยังมีฉัน
ไร้แสงจันทร์ ไร้ฝันใจ แม้ใฝ่หา
ศิโรราบ ภาพทรงจำ ย้ำคำลา
ยืนมองฟ้า ฟ้ามืดมน คนหม่นใจ "
" ช่วงขณะหนึ่งนั้น ฉันมองฟ้า
ความมืดของนภา พาหวั่นไหว
เงียบค่ำคืน กลืนคืนค่ำ ย้ำดวงใจ
เหตุไฉน? ใยเล่า.. เฝ้าคะนึง
ความสับสนปนเป คะเนหา
คำพูดเก่า เนาว์มา ว่าคิดถึง
ประโยคเศร้า เล่าซ้ำ คำตราตรึง
เพียงวูบหนึง พึงใจ ฤๅใกล้กัน
ระยะห่าง ระยะไกล อย่างไรหนอ
คนรอท้อ ยังรอคอย ยังคอยฝัน
แม้อยากหมุน หมุนช่วงกาล ผ่านเร็วพลัน
คงไร้วัน วันได้พบ ได้สบตา
-
---
-
ณ ตรงนี้ ที่นี่ ยังมีฉัน
ไร้แสงจันทร์ ไร้ฝันใจ แม้ใฝ่หา
ศิโรราบ ภาพทรงจำ ย้ำคำลา
ยืนมองฟ้า ฟ้ามืดมน คนหม่นใจ "
ณ ที่เก่า ที่เธอเหงา เฝ้ารอฉัน
ไร้แสงจันทร์ มีดาว พราวสดใส
ยังคิดถึง เธอนัก รักห่วงใย
สงสารใจ เธอจัง นั่งหม่นทรวง
ทุกขณะ หายใจ ให้คิดถึง
ใจคะนึง ซึ้งนัก รักเป็นห่วง
อยู่คนเดียว เปลี่ยวใจ ไกลพุ่มพวง
เห็นดาวร่วง วูบดับ ลับหายไป
คำพูดเก่า เล่าใหม่ ไม่เคยลืม
ยังปลาบปลื้ม เป็นห่วง ทรวงหมองไหม้
แต่เสียดาย เหลือล้น หนทางไกล
ยังห่วงใย ยิ่งนัก รักกานดา
ระยะทาง ห่างแค่ไหน ใจยังชิด
ยังเฝ้าคิด ถึงเธอ เพ้อห่วงหา
ศิโรราบ กราบเกล้า เหล่าเทวา
บอกเธอว่า คนไกล ไม่ลืมเธอ
ชลนา ทิชากร
ไร้แสงจันทร์ มีดาว พราวสดใส
ยังคิดถึง เธอนัก รักห่วงใย
สงสารใจ เธอจัง นั่งหม่นทรวง
ทุกขณะ หายใจ ให้คิดถึง
ใจคะนึง ซึ้งนัก รักเป็นห่วง
อยู่คนเดียว เปลี่ยวใจ ไกลพุ่มพวง
เห็นดาวร่วง วูบดับ ลับหายไป
คำพูดเก่า เล่าใหม่ ไม่เคยลืม
ยังปลาบปลื้ม เป็นห่วง ทรวงหมองไหม้
แต่เสียดาย เหลือล้น หนทางไกล
ยังห่วงใย ยิ่งนัก รักกานดา
ระยะทาง ห่างแค่ไหน ใจยังชิด
ยังเฝ้าคิด ถึงเธอ เพ้อห่วงหา
ศิโรราบ กราบเกล้า เหล่าเทวา
บอกเธอว่า คนไกล ไม่ลืมเธอ
ชลนา ทิชากร
Re: :::::เด็กปั๊ม.....?
« ตอบ #4 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2014, 10:14:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 07 พฤษภาคม 2014, 09:40:am
« ตอบ #4 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2014, 10:14:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 07 พฤษภาคม 2014, 09:40:am
ด้วยความจนข้นแค้นแสนสาหัส
อัตคัดเงินทองกองทรัพย์สิน
อยู่กับความทุกข์หม่นจนชาชิน
ต้องทำกินดิ้นรนบนทางเดิน
ตั้งแต่เช้ายันค่ำกรำเค็มเหงื่อ
เมื่อยล้าเหลือลำบากยากกล่าวเกริ่น
ทนบุกบั่นฟันฝ่ากล้าเผชิญ
กายล้าเกินมิท้อบริการ
อยากจะมีภัสดาไว้หาเลี้ยง
เฝ้ามองเมียงจ๊ะจ๋ายิ้มตาหวาน
ทั้งหนุ่มหล่อพ่อหม้ายวัยหย่อนยาน
ฐานะงานบ้านเฮียเมียคงมี
หลากหลายผู้ดูดื่นหมื่นพันเที่ยว
เพียงแค่เหลียวมาเกริ่นก็เมินหนี
อยากคบชายสักคนหม่นฤดี
ท้อเหลือที่ไผสิแลแค่..เด็กปั๊ม..!?
'ดิน"
อัตคัดเงินทองกองทรัพย์สิน
อยู่กับความทุกข์หม่นจนชาชิน
ต้องทำกินดิ้นรนบนทางเดิน
ตั้งแต่เช้ายันค่ำกรำเค็มเหงื่อ
เมื่อยล้าเหลือลำบากยากกล่าวเกริ่น
ทนบุกบั่นฟันฝ่ากล้าเผชิญ
กายล้าเกินมิท้อบริการ
อยากจะมีภัสดาไว้หาเลี้ยง
เฝ้ามองเมียงจ๊ะจ๋ายิ้มตาหวาน
ทั้งหนุ่มหล่อพ่อหม้ายวัยหย่อนยาน
ฐานะงานบ้านเฮียเมียคงมี
หลากหลายผู้ดูดื่นหมื่นพันเที่ยว
เพียงแค่เหลียวมาเกริ่นก็เมินหนี
อยากคบชายสักคนหม่นฤดี
ท้อเหลือที่ไผสิแลแค่..เด็กปั๊ม..!?
'ดิน"
ด้วยความจน หม่นไหม้ ใจละเหี่ย
อยากมีเมีย เสียที ฤดีช้ำ
เพราะความจน หม่นหมอง ต้องเก็บงำ
ฝากประจำ ทำมา หาเงินทอง
ตั้งแต่เช้า เฝ้าคิดถึง ซึ้งใจมาก
อยากเอ่ยปาก ฝากรัก แม่พักตร์ผ่อง
เป็นเด็กปั้ม กำหัวจ่าย ส่ายตามอง
อยากจับจอง ห้องใจ ไว้ครอบครอง
ขี่ขับปอ มอเตอร์ไซ ใช่รถเก๋ง
เธอไม่เล็ง เพ่งตา มามองจ้อง
เรามันจน หม่นช้ำ น้ำตานอง
เธอเลือกมอง จองเบ๋น เห็นกับตา
หลากหายใจ ใครเล่า เขาจะสน
เราคนจน หม่นไหม คนไร้ค่า
ใครไหนเล่า เขาจะมอง จ้องแลมา
มอเตอร์ไซ ไร้ราคา ไม่น่ามอง
ชลนา ทิชากร
อยากมีเมีย เสียที ฤดีช้ำ
เพราะความจน หม่นหมอง ต้องเก็บงำ
ฝากประจำ ทำมา หาเงินทอง
ตั้งแต่เช้า เฝ้าคิดถึง ซึ้งใจมาก
อยากเอ่ยปาก ฝากรัก แม่พักตร์ผ่อง
เป็นเด็กปั้ม กำหัวจ่าย ส่ายตามอง
อยากจับจอง ห้องใจ ไว้ครอบครอง
ขี่ขับปอ มอเตอร์ไซ ใช่รถเก๋ง
เธอไม่เล็ง เพ่งตา มามองจ้อง
เรามันจน หม่นช้ำ น้ำตานอง
เธอเลือกมอง จองเบ๋น เห็นกับตา
หลากหายใจ ใครเล่า เขาจะสน
เราคนจน หม่นไหม คนไร้ค่า
ใครไหนเล่า เขาจะมอง จ้องแลมา
มอเตอร์ไซ ไร้ราคา ไม่น่ามอง
ชลนา ทิชากร
Re: :::::เด็กปั๊ม.....?
« ตอบ #12 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2014, 10:05:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 13 พฤษภาคม 2014, 06:29:am
« ตอบ #12 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2014, 10:05:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 13 พฤษภาคม 2014, 06:29:am
ชายชราท่าทีจะขี้เหนียว
ขับรถเลี้ยวเสียงคุ้นรุ่นกระป๋อง
มาที่ปั๊มประจำชำเลืองมอง
ทำฉันข้องใจนักชักยังไง
ทำเหมือนเดิมเติมน้ำมันวันสิบบาท ..?
น่าอนาถจริงหนอพ่องามไส้
ชอบนั่งแขวะนั่งบ่นคนอะไร
มาทางไหนไปทางนั้นเดี๊ยะยันโครม
"ดิน"
ขับรถเลี้ยวเสียงคุ้นรุ่นกระป๋อง
มาที่ปั๊มประจำชำเลืองมอง
ทำฉันข้องใจนักชักยังไง
ทำเหมือนเดิมเติมน้ำมันวันสิบบาท ..?
น่าอนาถจริงหนอพ่องามไส้
ชอบนั่งแขวะนั่งบ่นคนอะไร
มาทางไหนไปทางนั้นเดี๊ยะยันโครม
"ดิน"