Re: ๐....รักอมตะ....๐
« ตอบ #1 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2012, 04:42:pm »
...หนึ่งบทเพลงอมตะ...
ความรู้สึกเมื่อจาก..ยิ่งอยากเจอ
เคยเคียงเธอยามดึก..รำลึกหวน
น้อยแต่หนึ่งพึงฝัน..อันรัญจวน
เธอมิควรด่วนลา..ไห้อาดูร
ด้วยหนึ่งเสี้ยวเกี่ยวขวัญ..อันพิสุทธิ์
มิอาจหยุดแล้วจบ..ลบเหลือศูนย์
ยิ่งไม่พบ..ไม่มี..ทวีคูณ
เธอเพิ่มพูนความสุข..ให้ทุกวัน
Music
« ตอบ #1 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2012, 04:42:pm »
...หนึ่งบทเพลงอมตะ...
ความรู้สึกเมื่อจาก..ยิ่งอยากเจอ
เคยเคียงเธอยามดึก..รำลึกหวน
น้อยแต่หนึ่งพึงฝัน..อันรัญจวน
เธอมิควรด่วนลา..ไห้อาดูร
ด้วยหนึ่งเสี้ยวเกี่ยวขวัญ..อันพิสุทธิ์
มิอาจหยุดแล้วจบ..ลบเหลือศูนย์
ยิ่งไม่พบ..ไม่มี..ทวีคูณ
เธอเพิ่มพูนความสุข..ให้ทุกวัน
Music
ความรู้สึก นึกคิด ที่ผิดหวัง
ฉันมานั่ง พร่ำเพ้อ ละเมอฝัน
นั่งเขียนกลอน วอนเธอ เพ้อรำพัน
สุขทุกข์นั้น พร่ำบอก ออกจากใจ
ยามฉันทุกข์ เธอปอบ ขอบคุณครับ
ขอน้อมรับ ไมตรี ที่มีให้
ยามฉันสุข เธอสุขด้วย อำนวยไชย
ทุกวันไป เท่านี้ ก็ดีพอ
ชลนา ทิชากร
ฉันมานั่ง พร่ำเพ้อ ละเมอฝัน
นั่งเขียนกลอน วอนเธอ เพ้อรำพัน
สุขทุกข์นั้น พร่ำบอก ออกจากใจ
ยามฉันทุกข์ เธอปอบ ขอบคุณครับ
ขอน้อมรับ ไมตรี ที่มีให้
ยามฉันสุข เธอสุขด้วย อำนวยไชย
ทุกวันไป เท่านี้ ก็ดีพอ
ชลนา ทิชากร
Re: :::::แค่นาง...คว้า....?
« ตอบ #2 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2014, 11:48:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2014, 09:54:am
« ตอบ #2 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2014, 11:48:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2014, 09:54:am
แค่หญิงหนึ่งไม่สกาวลูกชาวสวน
คงมิควรคู่เขาที่เฝ้าหมาย
ก้มหน้ามองน้องต่ำผิวคล้ำกาย
ยากหาชายเคียงข้องมิต้องตา
เก็บผักบุ้งนุ่งซิ่นกระถินจิ้ม
มิเคยลิ้มเคยใฝ่ในพิซซ่า
โดนัทเค้กสเต็ก-สตูหรูไปนา
แค่ปลาร้าตำส้มนิยมกัน
เขาปองสาวสูงศักดิ์รักนางฟ้า
ส่งสายตายลจ้องปองเคียงฝัน
เราแค่คนต่ำใต้ให้จาบัลย์
ต้องโศกศัลย์แค่นางคว้า...ชายพาเมิน
"ดิน"
คงมิควรคู่เขาที่เฝ้าหมาย
ก้มหน้ามองน้องต่ำผิวคล้ำกาย
ยากหาชายเคียงข้องมิต้องตา
เก็บผักบุ้งนุ่งซิ่นกระถินจิ้ม
มิเคยลิ้มเคยใฝ่ในพิซซ่า
โดนัทเค้กสเต็ก-สตูหรูไปนา
แค่ปลาร้าตำส้มนิยมกัน
เขาปองสาวสูงศักดิ์รักนางฟ้า
ส่งสายตายลจ้องปองเคียงฝัน
เราแค่คนต่ำใต้ให้จาบัลย์
ต้องโศกศัลย์แค่นางคว้า...ชายพาเมิน
"ดิน"
หุ่นก็สวย รวยทรัพย์ นับเนืองนอง
แถมขาวผ่อง มองที่ไร ใจมันเขิน
เพราะดวงจิต คิดหนัก รักเหลือเกิน
อยากจะเดิน ไปคุกเข่า เฝ้าบอกรัก
ชายหมายปอง ตรองคิด จิตลุ่มหลง
ให้พะวง หลงใหล ใจคิดหนัก
อยากจะบอก ออกจากปาก ยากยิ่งหนัก
เฝ้าหลงพักตร์ เนื้อนวล ป่วนปั่นใจ
ตรึกตรองจิต คิดไกล ไม่ดีกว่า
แม้นางฟ้า ยังอาย ชายหน้าไหน
จะไปเทียบ เทียมอยู่ คู่ไฉไล
เพราะว่าไม่ คู่ควร นวลอนงค์
ชลนา ทิชากร
แถมขาวผ่อง มองที่ไร ใจมันเขิน
เพราะดวงจิต คิดหนัก รักเหลือเกิน
อยากจะเดิน ไปคุกเข่า เฝ้าบอกรัก
ชายหมายปอง ตรองคิด จิตลุ่มหลง
ให้พะวง หลงใหล ใจคิดหนัก
อยากจะบอก ออกจากปาก ยากยิ่งหนัก
เฝ้าหลงพักตร์ เนื้อนวล ป่วนปั่นใจ
ตรึกตรองจิต คิดไกล ไม่ดีกว่า
แม้นางฟ้า ยังอาย ชายหน้าไหน
จะไปเทียบ เทียมอยู่ คู่ไฉไล
เพราะว่าไม่ คู่ควร นวลอนงค์
ชลนา ทิชากร
เรื่อยๆ
« เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2014, 10:29:pm »
« เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2014, 10:29:pm »
ค่ำคืนนี้มีดาววับวาวฟ้า
ส่องนภาแพรวพร่างอย่างเคยเห็น
ลมราตรีหวี่หวิวสยิวเย็น
หนาวน้ำค้างอย่างเค้นขุดฤทัย
มาไร้นวลแนบข้างเคว้งคว้างจิต
ขาดคู่คิดอุราพาหวั่นไหว
ยืนตากลมชมดาวเหน็บหนาวใจ
ผืนผ้าใบราตรีที่ห่มนอน
โอ้ลมหนาว...หนาวป่วนรัญจวนนัก
ขาดคนรักอิงซบประกบหมอน
ผ่าราตรีพิศวาสจะขาดรอน
อกสะท้อนไออุ่นไม่หนุนทรวง
วิงวอนดาวพราวเด่นเห็นประดับ
อย่าให้รักลาลับจนลิบล่วง
ดาวช่วยสื่อสายใยหยาดหยดยวง
นำพารักไปสู่ห้วงฤดีแด
Orion264(มือขวา)
ส่องนภาแพรวพร่างอย่างเคยเห็น
ลมราตรีหวี่หวิวสยิวเย็น
หนาวน้ำค้างอย่างเค้นขุดฤทัย
มาไร้นวลแนบข้างเคว้งคว้างจิต
ขาดคู่คิดอุราพาหวั่นไหว
ยืนตากลมชมดาวเหน็บหนาวใจ
ผืนผ้าใบราตรีที่ห่มนอน
โอ้ลมหนาว...หนาวป่วนรัญจวนนัก
ขาดคนรักอิงซบประกบหมอน
ผ่าราตรีพิศวาสจะขาดรอน
อกสะท้อนไออุ่นไม่หนุนทรวง
วิงวอนดาวพราวเด่นเห็นประดับ
อย่าให้รักลาลับจนลิบล่วง
ดาวช่วยสื่อสายใยหยาดหยดยวง
นำพารักไปสู่ห้วงฤดีแด
Orion264(มือขวา)
ค่ำคืนนี้ เธอเหงา ฉันเศร้าหม่น
อยากเป็นคน คลอเคล้า เฝ้ามองแข
สัญญารัก ผูกพัน ไม่ผันแปร
เฝ้าชะแง้ แลจันทร์ กันสองเรา
เธอจะไม่ ไร้นวล ดังครวญพร่ำ
น้ำค้างพรำ กล้ำกลืน คืนฟ้าเศร้า
เหม่อมองดาว พราวตา ฟ้าสีเทา
ขาดคนเคล้า เคียงข้าง อ้างว้างใจ
เพราะมีฉัน โอบกาย ให้คลายหนาว
น้ำค้างพราว หนาวลม พรมพัดไหว
ยังมีฉัน เคียงข้าง ไม่ห่างไกล
เฝ้าห่วงใย ใกล้ชิต จิตผูกพัน
ไม่ต้องวอน อ้อนดาว พราวฟากฟ้า
ฉันจะมา เคียงอยู่ เป็นคู่ขวัญ
คอยหยอกเย้า เซ่าซี ชี้ชมจันทร์
ร่วมสร้างฝัน กลางฟ้า ยามราตรี
ขลนา ทิชากร
อยากเป็นคน คลอเคล้า เฝ้ามองแข
สัญญารัก ผูกพัน ไม่ผันแปร
เฝ้าชะแง้ แลจันทร์ กันสองเรา
เธอจะไม่ ไร้นวล ดังครวญพร่ำ
น้ำค้างพรำ กล้ำกลืน คืนฟ้าเศร้า
เหม่อมองดาว พราวตา ฟ้าสีเทา
ขาดคนเคล้า เคียงข้าง อ้างว้างใจ
เพราะมีฉัน โอบกาย ให้คลายหนาว
น้ำค้างพราว หนาวลม พรมพัดไหว
ยังมีฉัน เคียงข้าง ไม่ห่างไกล
เฝ้าห่วงใย ใกล้ชิต จิตผูกพัน
ไม่ต้องวอน อ้อนดาว พราวฟากฟ้า
ฉันจะมา เคียงอยู่ เป็นคู่ขวัญ
คอยหยอกเย้า เซ่าซี ชี้ชมจันทร์
ร่วมสร้างฝัน กลางฟ้า ยามราตรี
ขลนา ทิชากร
Re: คิดถึง..คิดถึง..
« ตอบ #4 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2014, 09:41:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2014, 10:55:pm
« ตอบ #4 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2014, 09:41:pm »
อ้างจาก: ละอองดิน ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2014, 10:55:pm
เสียงใครกันบ่นหาว่าคิดถึง
อักษรซึ้งประหลาดมิอาจผ่าน
จึงต้องวกเวียนก่อมาต่อกานท์
คงมิหวานซ่านตรึงอย่าขึ้งงอน
โลกออนไลท์ทำฉันจนหวั่นไหว
สัมพันธ์ใจชายหนึ่งแอบซึ้งซ่อน
แต่เขาจากไกลลับมิกลับคอน
ลืมเคยอ้อนกลอนต่อรอเขาคืน
"ดิน"
อักษรซึ้งประหลาดมิอาจผ่าน
จึงต้องวกเวียนก่อมาต่อกานท์
คงมิหวานซ่านตรึงอย่าขึ้งงอน
โลกออนไลท์ทำฉันจนหวั่นไหว
สัมพันธ์ใจชายหนึ่งแอบซึ้งซ่อน
แต่เขาจากไกลลับมิกลับคอน
ลืมเคยอ้อนกลอนต่อรอเขาคืน
"ดิน"
เสียงฉันเอง บรรเลงกลอน อ้อนหาเธอ
อยากเจอะเจอ สักครั้ง หวังได้ชื่น
เป็นตัวแทน คนไกล ไม่หวนคืน
จะไปยืน หยอกล้อ เฝ้าต่อกลอน
โลกออนไลน์ ยิ่งไล้ ยิ่งใกล้ชิด
แนบสนิท ยิ่งนัก รักออดอ้อน
เขาจากไกล ช่างเขา เจ้างามงอน
ฉันจะออน ไลน์ใจ ไปหาเธอ
ชลนา ทิชากร
อยากเจอะเจอ สักครั้ง หวังได้ชื่น
เป็นตัวแทน คนไกล ไม่หวนคืน
จะไปยืน หยอกล้อ เฝ้าต่อกลอน
โลกออนไลน์ ยิ่งไล้ ยิ่งใกล้ชิด
แนบสนิท ยิ่งนัก รักออดอ้อน
เขาจากไกล ช่างเขา เจ้างามงอน
ฉันจะออน ไลน์ใจ ไปหาเธอ
ชลนา ทิชากร
"ไม่กล้าทัก"
« เมื่อ: 01 มีนาคม 2014, 07:02:pm »
« เมื่อ: 01 มีนาคม 2014, 07:02:pm »
บอกตรงตรงเลยหนาไม่กล้าทัก
ใช่เหหักห่างเหินเมินหน้าหนี
ด้วยไม่รู้เยื่อใยที่ใจมี
ยังเหลือที่ให้วางเช่นดั่งเคย-
หรือว่ามีใครแทรกให้แตกร้าว
เก็บเรื่องราวเราทิ้งจึงนิ่งเฉย
ไม่สนในรู้สึกสำนึกเลย
จะลงเอยขัดแย้งหรือแกล้งอำ
บอกมาเลยดีกว่าว่าลาแล้ว
ไม่เหลือแววหวานชื่นมันขื่นช้ำ
สัมพันธ์จบวันนี้ที่กระทำ
ไม่มีคำอธิบายก่อนไกลกัน
แล้วอย่าแสร้งแกล้งดีเหมือนปีก่อน
วางคำกลอนอ้อนซึ้งคะนึงฝัน
เมื่อเหตุผลดลถึงซึ่งผูกพัน
เธอไม่หวั่นฉันช้ำ....ก็ตามใจ...
"สุนันท์ยา"
ใช่เหหักห่างเหินเมินหน้าหนี
ด้วยไม่รู้เยื่อใยที่ใจมี
ยังเหลือที่ให้วางเช่นดั่งเคย-
หรือว่ามีใครแทรกให้แตกร้าว
เก็บเรื่องราวเราทิ้งจึงนิ่งเฉย
ไม่สนในรู้สึกสำนึกเลย
จะลงเอยขัดแย้งหรือแกล้งอำ
บอกมาเลยดีกว่าว่าลาแล้ว
ไม่เหลือแววหวานชื่นมันขื่นช้ำ
สัมพันธ์จบวันนี้ที่กระทำ
ไม่มีคำอธิบายก่อนไกลกัน
แล้วอย่าแสร้งแกล้งดีเหมือนปีก่อน
วางคำกลอนอ้อนซึ้งคะนึงฝัน
เมื่อเหตุผลดลถึงซึ่งผูกพัน
เธอไม่หวั่นฉันช้ำ....ก็ตามใจ...
"สุนันท์ยา"
ถ้าจะทัก เสียอย่าง บนทางรัก
ก็เชิญทัก เถิดหนา อย่าหวั่นไหว
ทักให้รับ ให้รู้ เพื่อดูใจ
คิดอะไร กันอยู่ อยากรู้จัง
ถ้าจะรัก เสียอย่าง จงวางใจ
กลัวทำไม่ นิยาม ความผิดหวัง
รักมีสุข โศกเศร้า เหงาประดัง
ไม่จีรัง ยั่งยืน อย่าฝืนเลย
ต้องเรียนรู้ ชีวิต ที่ผิดพลาด
เมื่อฉลาด ขึ้นบ้าง ก็วางเฉย
รักเคยหวาน ผ่านพ้น คนคุ้นเคย
จงสังเวย รักไป ให้เป็นทาน
อย่าเก็บมา ใส่ใจ ให้ขุ่นเคือง
จงปลดเปลื้อง ปล่อยไป ให้พ้นผ่าน
พบรักใหม่ สดใส ใจชื่นบาน
ยิ้มหวานหวาน ขานรับ ประทับใจ
ชลนา ทิชากร
ก็เชิญทัก เถิดหนา อย่าหวั่นไหว
ทักให้รับ ให้รู้ เพื่อดูใจ
คิดอะไร กันอยู่ อยากรู้จัง
ถ้าจะรัก เสียอย่าง จงวางใจ
กลัวทำไม่ นิยาม ความผิดหวัง
รักมีสุข โศกเศร้า เหงาประดัง
ไม่จีรัง ยั่งยืน อย่าฝืนเลย
ต้องเรียนรู้ ชีวิต ที่ผิดพลาด
เมื่อฉลาด ขึ้นบ้าง ก็วางเฉย
รักเคยหวาน ผ่านพ้น คนคุ้นเคย
จงสังเวย รักไป ให้เป็นทาน
อย่าเก็บมา ใส่ใจ ให้ขุ่นเคือง
จงปลดเปลื้อง ปล่อยไป ให้พ้นผ่าน
พบรักใหม่ สดใส ใจชื่นบาน
ยิ้มหวานหวาน ขานรับ ประทับใจ
ชลนา ทิชากร
กลัวผิดพลั้งยั้งก่อนไม่อ้อนหา
รอเวลาช่วงตอนคราวอ่อนไหว
ให้ผ่านพ้นท้นท้อเหมือนก่อไฟ
ดับสิ้นไปจากบ่วงดวงฤดี
เพราะไม่รู้เล่ห์ร้ายปลายทางฝัน
เขาจะมั่นหรือไม่ หรือย้ายหนี
ความโอบเอื้อเหลือไหม?หรือไม่มี
ความปราณีครั้งเก่ายังเท่าเดิม
หรือว่าไม่มีเหลือไม่ไกลห่าง
ปล่อยละวางรักคล้อยมิคอยเสริม
ให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปไม่เต็มเติม
ไม่อาจเริ่มรักเราเหมือนเก่าเคย
หากแม้นยังใยดีปราณีมอบ
คงจะหอบรักย้อนมาอ้อนเผย
คอยทักถามตามติดชวนชิดเชย
มิผ่านเลยล่วงล้ำให้ช้ำทรวง..
"สุนันท์ยา"
รอเวลาช่วงตอนคราวอ่อนไหว
ให้ผ่านพ้นท้นท้อเหมือนก่อไฟ
ดับสิ้นไปจากบ่วงดวงฤดี
เพราะไม่รู้เล่ห์ร้ายปลายทางฝัน
เขาจะมั่นหรือไม่ หรือย้ายหนี
ความโอบเอื้อเหลือไหม?หรือไม่มี
ความปราณีครั้งเก่ายังเท่าเดิม
หรือว่าไม่มีเหลือไม่ไกลห่าง
ปล่อยละวางรักคล้อยมิคอยเสริม
ให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปไม่เต็มเติม
ไม่อาจเริ่มรักเราเหมือนเก่าเคย
หากแม้นยังใยดีปราณีมอบ
คงจะหอบรักย้อนมาอ้อนเผย
คอยทักถามตามติดชวนชิดเชย
มิผ่านเลยล่วงล้ำให้ช้ำทรวง..
"สุนันท์ยา"
เธอวางกลอน อ่อนหวาน ประสานเศร้า
ฉันก็เขา ปลอบไป ด้วยใจห่วง
ไม่เคยคิด กลับกลอก เพื่อหลอกลวง
ด้วยความหวง ห่วงใย จากใจจริง
เธอก็ฝัน ฉันก็ฝัน สัมพันธ์รัก
มอบใจภักดิ์ รักไป ไม่หลอกหญิง
ไม่ทะเล้น กลิ่งกลอก หลอกเหมือนลิง
ไม่ทอดทิ้ง จริงใจ ในฝันนะ
ความรักเธอ อยู่ในกลอน อักษรศรี
สิ้นกวี สิ้นรัก ประจักษ์จ้ะ
เราร่วมรัก ร่วมฝัน กันนะจ๊ะ
รักก็จะ ยั้งยืน ไม่ขื่นใจ
ฝากใจฝัน กันเถิด จะเกิดผล
ไม่ทุกข์ทน หม่นหมอง ต้องร้องไห้
ฉันกับเธอ เจอกัน ทุกวันไป
ยามหลับใหล ใจฉัน ฝันถึงเธอ
ชลนา ทิชากร
ฉันก็เขา ปลอบไป ด้วยใจห่วง
ไม่เคยคิด กลับกลอก เพื่อหลอกลวง
ด้วยความหวง ห่วงใย จากใจจริง
เธอก็ฝัน ฉันก็ฝัน สัมพันธ์รัก
มอบใจภักดิ์ รักไป ไม่หลอกหญิง
ไม่ทะเล้น กลิ่งกลอก หลอกเหมือนลิง
ไม่ทอดทิ้ง จริงใจ ในฝันนะ
ความรักเธอ อยู่ในกลอน อักษรศรี
สิ้นกวี สิ้นรัก ประจักษ์จ้ะ
เราร่วมรัก ร่วมฝัน กันนะจ๊ะ
รักก็จะ ยั้งยืน ไม่ขื่นใจ
ฝากใจฝัน กันเถิด จะเกิดผล
ไม่ทุกข์ทน หม่นหมอง ต้องร้องไห้
ฉันกับเธอ เจอกัน ทุกวันไป
ยามหลับใหล ใจฉัน ฝันถึงเธอ
ชลนา ทิชากร
ฟังวลีรินร้อยถ้อยสื่อสาร
เมื่อผ่านนานกาลเผยเคยเนอ
คำว่ารักภักดีที่เคยเจอ
ดั่งไผลเผลอพลั้งผิดที่จิตตน
คำรักมั่นวันนี้มีอักษร
ร้อยงานกลอนอ้อนฝันปันฝากผล
ที่เคยผ่านวันเศร้ารวดร้าวทน
ความสับสนเกิดก่อ มีท้อตาม
เราทักกันด้วยรสของพจน์ศิลป์
ไปดั่งจินตนาการที่หวานหวาม
ไม่มีหรอกโกรธขึงบึ้งตึงความ
รักงดงามสวยใสมีให้เธอ...
"สุนันท์ยา
เมื่อผ่านนานกาลเผยเคยเนอ
คำว่ารักภักดีที่เคยเจอ
ดั่งไผลเผลอพลั้งผิดที่จิตตน
คำรักมั่นวันนี้มีอักษร
ร้อยงานกลอนอ้อนฝันปันฝากผล
ที่เคยผ่านวันเศร้ารวดร้าวทน
ความสับสนเกิดก่อ มีท้อตาม
เราทักกันด้วยรสของพจน์ศิลป์
ไปดั่งจินตนาการที่หวานหวาม
ไม่มีหรอกโกรธขึงบึ้งตึงความ
รักงดงามสวยใสมีให้เธอ...
"สุนันท์ยา
สำเนียงรัก ถักร้อย ถ้อยสื่อสาร
ลิขิตผ่าน บทกลอน อ้อนเสนอ
แสนซาบซึ้ง ตรึงใจ คราได้เจอ
ฟังแล้วเผลอ ใจลอย เคลิ้มคล้อยตาม
สำเนียงรัก งดงาม อร่ามสวย
มอบมาด้วย ดวงใจ ที่ไหวหวาม
อดีตช้ำ กล้ำกลืน ฝืนทุกยาม
ถูกมองข้าม เลือนหาย สลายไป
ต่างทักทาย ด้วยรส บทกวี
คลอดนตรี พลิ้วผ่าน หวานสดใส
เป็นสำเนียง เสียงบอก ออกจากใจ
มอบรักไว้ ให้ประจักษ์ ว่ารักเธอ
ชลนา ทิชากร
ลิขิตผ่าน บทกลอน อ้อนเสนอ
แสนซาบซึ้ง ตรึงใจ คราได้เจอ
ฟังแล้วเผลอ ใจลอย เคลิ้มคล้อยตาม
สำเนียงรัก งดงาม อร่ามสวย
มอบมาด้วย ดวงใจ ที่ไหวหวาม
อดีตช้ำ กล้ำกลืน ฝืนทุกยาม
ถูกมองข้าม เลือนหาย สลายไป
ต่างทักทาย ด้วยรส บทกวี
คลอดนตรี พลิ้วผ่าน หวานสดใส
เป็นสำเนียง เสียงบอก ออกจากใจ
มอบรักไว้ ให้ประจักษ์ ว่ารักเธอ
ชลนา ทิชากร