วันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเสียยิ่งกระไร
้เผ้้ล้้
้้้องโพสต์เรื่อ้งลงอีกแล้ว
พูดตามตรง มัคคุเทศก์เองก็ขี้เกียจพิมพ์
เพราะดูแล้ว งานนี้เป็นหนังชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัย
ลงมาหลายตอนแล้ว คงต้องลุยจนจบ
"เรื่องช้าง" ในประชุมพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๔ ภาคปกิณกะ
จะกล่าวถึงในอาทิตย์หน้า
ไอยราพต จัดอยู่ในพวกช้างอัฏฐทิศ สีการดังสีเมฆ เท้ากลมดังกงฉัตร เล็บเสมอ
หน้าสูงท้ายต่ำอย่างสิงห์ ดวงตาใหญ่ดังดาวประกายพรึก งายาวงอนขึ้นขวา
งวงดังพญานาคเป็นช้างประจำทิศบูรพา
บุณฑริก จัดอยู่ในช้างอัฏฐทิศ สีขาวดังดอกบัวขาว งาใหญ่สั้น
สีงาดังสีสังข์ กลิ่นตัวหอมดังดอกสัตตบงกช เป็นช้างประจำทิศอาคเนย์
โกมุท สีกายดังดอกบัวแดง ตัวสูง ใบหูอ่อน งางอนขึ้นดังพระจันทร์ เมื่อขึ้น ๓ ค่ำ
เป็นช้างประจำทิศหรดี
อัญชันคีรี สีกายดังดอกอัญชัน งาใหญ่ คอใหญ่ เสียงดังลมพัดในปล้องไม้ไผ่
เป็นช้างประจำทิศประจิม
้
้้้้้้รูปถ่ายไม่ค่อยชัด แต่ภาพในหนังสือ จิตรกรไทยวาดให้ช้างดูหน้าตาทะเล้น คือ อมยิ้มแล้วเหลือกตามองข้างบน
พันธุ์ดอกอัญชันนี่ งาตรงยังกะไม้จิ้มฟันเลยฮะ
้ไม่รู้เครื่อ้งเ้้ป้็น้อ้้ะไ้ร พ้ิม้พ้ิ้็์แลว้ข้้ั้้นแ้ต่ไ้ม้้็"ท้้
้
้้้้helhhph hmhohehh hhehh ้้้help me !!!